บทความ

หมอนขนห่านเทียมแตกต่างจากหมอนทั่วไปยังไง

หมอนขนห่านเทียมแตกต่างจากหมอนทั่วไปยังไง ?

การนอนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในชีวิตของคนเรา เพราะการนอนการช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังเหนื่อยล้ามาทั้งวันได้ ซึ่งการพักผ่อนที่ดีมีคุณภาพควรนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง จะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระหว่างวัน แต่การที่เราจะนอนอย่างมีคุณภาพได้ สิ่งสำคัญเลยคือเครื่องนอนที่ดีอย่างผ้าห่มที่อุ่น ผ้าที่สะอาด และหมอนที่สามารถซัพพอร์ตการนอนได้อย่างมีคุณภาพอย่างหมอนขนห่านเทียม ซึ่งจะแตกต่างจากหมอนทั่วไป เนื่องจากหมอนทั่วไปมักจะใช้นุ่นเป็นวัสดุหลัก ซึ่งทำให้ยุบและเสียรูปหลังใช้ได้ไม่นาน รวมถึงไม่ได้เคลือบสารป้องกันไรฝุ่น จึงไม่เหมาะกับเป็นกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ อีกทั้งวัสดุที่ใช้ระบายอากาศได้ไม่ดีทำให้มีโอกาสที่เชื้อโรคหรือแบคทีเรียจะเติบโตได้ง่าย แต่หมอนขนห่านเทียบนั้นจะผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์คุณภาพสูง ซึ่งถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติคล้ายขนห่านแท้ในเรื่องของความนุ่มฟูและความยืดหยุ่น และยังช่วยรองรับศีรษะและคอได้ดี ช่วยลดอาการปวดเมื่อยในระหว่างการพักผ่อน แถมยังช่วยลดการสะสมของไรฝุ่น อีกทั้งสามารถซักเครื่องได้เหมาะสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้มาก 

5 เหตุผลที่คุณควรลองหมอนขนห่านสักครั้งในชีวิต ! 

1. นุ่ม และคืนรูปได้ดี

จุดเด่นที่น่าสนใจของหมอนขนห่านเทียมคือความรู้สึกนุ่มฟูที่มีคุณสมบัติคล้ายกับขนห่านจริง แต่ยังมีความแน่นภายในเนื้อผ้าที่จะช่วยซัพพอร์ตกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและต้นคอของคุณให้ได้รับการรองรับอย่างเหมาะสม ทำให้ลดอาการปวดเมื่อยต้นคอเมื่อตื่นเช้าได้ แถมยังคืนรูปได้ดีแม้ว่าจะมีความนุ่มฟู ทำไมหมอนยังคงสภาพเดิมไว้ได้ดีถึงจะใช้เป็นเวลานาน

2. เหมาะกับผู้เป็นภูมิแพ้

ปัญหาหนึ่งของสาเหตุภูมิแพ้คือไรฝุ่น ที่สามารถยึดเกาะกับผ้าได้ดี ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่สะดวกในการทำความสะอาด จนทำให้เกิดไรฝุ่นเพราะมีการสะสมของไรฝุ่นในปริมาณที่มาก หากใช้หมอนทั่วไปการสะสมของเชื้อรา และแบคทีเรียที่มองไม่เห็น หมอนขนห่านเทียมจึงเหมาะกับชาวภูมิแพ้มาก เนื่องจากใช้วัสดุสังเคราะห์ซึ่งไรฝุ่นไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ง่าย และสามารถทำความสะอาดด้วยการซักเครื่องได้ โดยรูปทรงของหมอนจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ หอบหืด หมอนนี้จึงช่วยลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ได้ และยังเหมาะสำหรับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุอีกด้วย

3. ระบายอากาศได้ดี

อีกจุดเด่นหนึ่งที่น่าสนใจของหมอนขนห่านเทียมคือสามารถระบายอากาศได้ดีมาก ไม่กักเก็บความร้อนหรือความชื้น ซึ่งต่างจากหมอนเมมโมรีโฟมที่มักจะดูดซับเหงื่อและอากาศร้อน ทำให้เวลานอนแล้วรู้สึกร้อน ไม่สบายตัว และข้อได้เปรียบอีกอย่างที่ทำให้หมอนขนห่านเทียมโดนเด่นจากหมอนทั่วไปคือ เส้นใยสังเคราะห์ที่บาง เบา และโปร่งอากาศ หมอนขนห่านเทียมจึงแห้งเร็ว ไม่เกิดกลิ่นอับ และเหมาะอย่างยิ่งกับสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย

4. ดูแลรักษาง่าย

หลายๆคนอาจจะมีความรู้สึกที่อยากจะซักหมอนของตัวเองมากๆ เพราะหมอนที่ใช้อยู่มีทั้งฝุ่น เชื้อโรค หรือแม้แต่คราบน้ำลาย แต่ปัญหาที่ตามมาคือหมอนทั่วไปที่ขายตามท้องตลอดเมื่อนำไปซักจะทำให้หมอนเสียสภาพหลังการซักได้ ซึ่งหมอนขนห่านเทียมส่วนใหญ่สามารถซักและอบแห้งได้ในเครื่องซักผ้าทั่วไป โดยไม่ต้องกลัวว่าหมอนจะเสียรูปหรือเสื่อมคุณภาพ เพราะมีเส้นใยที่ยืดหยุ่นรองรับการใช้งาน และที่สำคัญเลยหากคุณไม่อยากให้หน้าของคุณสิวขึ้นหรือมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง จึงควรซักหมอนเป็นประจำทุก 1–2 เดือนจะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ฝุ่นละออง และเหงื่อจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน

5. อายุการใช้งานยาวนาน

ในปัจจุบันทุกคนล้วนซื้อของที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ทำให้หมอนขนห่านเทียมได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะหมอนขนห่านที่มีคุณภาพดีสามารถใช้งานได้นาน 3–5 ปี แต่ยังสามารถคงความฟูและความนุ่มไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เสียทรงง่ายเหมือนหมอนใยสังเคราะห์ตามท้องตลาดที่มักแบน ยวบหลังจากการใช้ไม่กี่ครั้ง แต่ทุกคนจะติดปัญหาในเรื่องของราคา เนื่องจากหมอนขนห่านอาจจะมีราคามีสูงกว่าหมอนทั่วไป แต่เมื่อเราคิดเฉลี่ยตามการใช้งานจริง จะรู้ว่าคุ้มค่ากว่า และยังช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลในระยะยาวด้วย เพราะการนอนที่ดี ช่วยลดปัญหาออฟฟิศซินโดรม ปวดคอ

หลับสบายผ่อนคลายทุกคืนด้วยหมอนขนห่านเทียม 

ในปัจจุบันนี้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจในเรื่องของการพักผ่อนที่ดีมีคุณภาพ เพราะช่วยในเรื่องของอาการปวดคอ เมื่อยไหล่ หรือแม้แต่อาการออฟฟิศซินโดรมที่พบเจอได้ทั่วไปตามพนักงานบริษัทที่นั่งอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน ซึ่งหมอนขนห่านเทียมนอกจากจะดีต่อสุขภาพกล้ามเนื้อในระยะยาวแล้ว และยังผลิตมาจากเส้นใยสังเคราะห์ที่มีคุณภาพ ช่วยระบายอากาศได้ดีและลดฝุ่นที่จะยึดติดกับตัวหมอน แถมยังมีราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพที่คุณจะได้รับ หากคุณสนใจในคุณภาพการนอนที่ดี หมอนขนห่านเทียม spluxury เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยเสริมการนอนของคุณในดีมากยิ่งขึ้น ด้วยหมอนคุณภาพที่ถักทอจากเส้นใยสังเคราะห์แบบพิเศษ ช่วยให้หมอนของคุณมีความนุ่มฟูและใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ไม่ว่าคุณจะนำหมอนไปใช้ภายในครอบครัวหรือใช้สำหรับธุรกิจโรงแรม เราก็พร้อมยินดีผลิตสินค้าในตรงความต้องการของคุณ ด้วยบริการที่เป็นมิตรและคุณภาพสินค้าที่ดีสำหรับทุกคน !

ผ้าขนหนูโรงแรม แรร์ไอเทมที่โรงแรมขาดไม่ได้ !

ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมภายในประเทศไทยที่นอกจากการบริการแล้ว เรื่องของคุณภาพและภาพลักษณ์ต่างมีอิทธิพลในการตัดสินใจของลูกค้า เพราะเพียงแค่ขึ้นชื่อว่าเป็น “โรงแรม” ผู้คนต่างก็คาดหวังความสะดวกสบายต่าง ๆ และความนุ่มของข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องพักทั้งเตียง หมอน ผ้าห่ม ไม่เว้นแม้กระทั่งผ้าขนหนูของโรงแรม ทำให้รายละเอียดเล็กน้อยนี้มีความสำคัญและเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถสะท้อนตัวตนและแนวคิดการบริการของโรงแรมได้เป็นอย่างดีว่าใส่ใจในการดูแลลูกค้าของพวกเขามากแค่ไหน ดังนั้นการคัดเลือกผ้าขนหนูโรงแรมจึงเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมต่างทุ่มสุดตัว เพื่อค้นหาผ้าขนหนูที่ดีและได้มาตรฐษนมาสร้างความพึงพอใจให้กับแขกผู้เข้าพัก แต่การลงทุนดังกล่าวอาจไม่คุ้มค่า หากต้องมาเสียกำไรไปกับผ้าขนหนูโรงแรมที่ไม่ได้คุณภาพ ไปจนถึงมีคุณภาพเสื่อมถอยจากการดูแลที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งทำให้การดูแลรักษาผ้าขนหนูโรงแรมเป็นเรื่องจำเป็นไปโดยปริยาย

เคล็ดไม่ลับในการดูแลรักษาผ้าขนหนูให้ยังนุ่ม ใช้งานได้นาน

เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การเรียนรู้กระบวนการในการดูแลรักษาคงเป็นทางเลือกเดียว เพียงแต่วิธีการดูแลรักษาผ้าขนหนูโรงแรมนั้นไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงเลือกใช้ 4 เคล็ดไม่ลับนี้กับผ้าขนหนูโรงแรม

  1. ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

แม้ว่าผ้าขนหนูโรงแรมจะเป็นเพียงผืนผ้าชนิดหนึ่ง แต่วิธีรักดูแลรักษาความสะอาดที่ถูกต้องคือ การแยกซักจากผ้าชนิดอื่น ๆ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและรักษาสุขอนามัยที่ดี

  1. ใช้ปริมาณผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เหมาะสม

แม้ว่าหลายคนอาจคิดว่าการใช้ผงซักฟอกในปริมาณมากจะทำให้ผ้าสะอาดใหม่เอี่ยม หรือการใช้ปรับผ้านุ่มเยอะจะทำให้ผ้าขนหนูหอมสดชื่น แต่แท้จริงแล้วกลับทำให้ผ้าขนหนูเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น เพราะส่งผลเสียต่อเส้นใย หรืออาจเป็นแหล่งสะสมสารเคมีที่อันตรายกับผิวหนัง จึงควรเลือกใช้ปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนจะทำให้ผ้าขนหนูของโรงแรมมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น

  1. หลีกเลี่ยงความร้อนจัด

ความร้อนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับการยอมรับในประเทศไทย ซึ่งความร้อนที่มากเกินไปอาจทำให้เส้นใยของผ้าขนหนูเกิดการแข็งกระด้าง บางโรงแรมจึงเลือกใช้การอบ เพียงแต่การดูแลรักษาผ้าขนหนูโรงแรมให้มีคุณภาพที่ดีและยืนยาวนั้นต้องใช้อุณหภมิที่เหมาะสม

  1. จัดเก็บให้ถูกวิธี 

การจัดเก็บผ้าขนหนูโรงแรมเป็นกระบวนการดูแลรักษาที่ง่ายที่สุด เพียงแค่แยกประเภทผ้าให้ชัดเจน แล้วนำไปจัดเก็บในที่ ๆ สะอาด ไม่มีความชื้น และห่างจากฝุ่นละออง ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดแบคทีเรียได้อีกด้วย

ผ้าขนหนูโรงแรมแบบไหนไม่น่าซื้อ ?

นอกจากการรู้วิธีการดูแลรักษาแล้ว ผู้ประกอบการเองควรจะเลือกลงทุนกับผ้าขนหนูอย่างคุ้มค่าที่สุด โดยการหลีกเลี่ยงผ้าขนหนูโรงแรมไร้ประสิทธิภาพ และเหล่านี้คือจุดสังเกตผ้าขนหนูโรงแรมคุณภาพต่ำสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่พักและแขกผู้เข้าพัก

  • รูปแบบการเย็บที่ไม่ได้มาตรฐาน

ผ้าขนหนูโรงแรมที่ดีสังเกตได้จากกการเย็บ เช่นเดียวกับผ้าขนหนูที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งถ้าหากการเย็บนั้นไม่เรียบร้อย หรือหลุดรุ่ยง่าย จะทำให้ผ้าขนหนูดูเก่าเร็วหรือเสื่อมสภาพได้ง่าย 

  • วัสดุที่ไม่ตอบโจทย์

ผ้าขนหนูโรงแรมที่ไม่ได้มาตรฐานจะไม่สามารถซับน้ำได้ดี รวมถึงขาดความนุ่มเกิดจากการใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ  ทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เพราะขาดคุณสมบัติการใช้งานที่ดีและอาจไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้ผู้เข้าพักได้

  • ไม่ทนทานต่อการซัก

ผ้าขนหนูโรงแรมที่และได้มาตรฐานต้องมีความทนทานต่อการซัก เพราะถือเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความสะอาดหลังจากการใช้งาน จึงเป็นคุณสมบัติที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งนอกจากกความทนทานต่อการซักแล้ว สีของผ้าขนหนูที่ดีก็ไม่ควรซีดจางได้ง่าย

เลือกผ้าขนหนูแบบไหนให้่ได้มาตรฐาน เหมาะกับธุรกิจโรงแรม ?

เมื่อเห็นแล้วว่ารายละเอียดเล็กน้อยอย่างผ้าขนหนูโรงแรมมีอิทธิพลมากขนาดไหน ทั้งต่อผู้เข้าพักและผู้ประกอบการเอง ทำให้คิดไม่ตกกันเลยทีเดียวว่าต้องเลือกลงทุนกับผ้าขนหนูที่ไหนที่ได้มาตรฐาน แล้วไหนจะต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และเวลาในการดูแลรักษา ทำให้การเลือกลงทุนผ้าขนหนูโรงแรมกับ SP Luxury  ที่ผลิตเครื่องนอนหลากหลายชนิดที่ยืนหนึ่งในด้านความนุ่มและความเป็นมาตรฐานทั้งผ้าปู ปลอกหมอน ท็อปเปอร์ รวมถึงผ้าขนหนูโรงแรม ด้วยความชำนาญและเป็นอาชีพและมีคุณสมบัติครบถ้วน เป็นตัวเลือกอันดับต้นให้กับผู้ประกอบการที่พัก เพราะใช้วัสดุที่เหมาะสมด้วยการใช้ Cotton 100 % ทำให้รับประกันความหนานุ่มที่คงอยู๋ยาวนาน ไม่เสื่อมสภาพหรือเป็นขุยได้ง่าย ๆ ทำให้การดูแลรักษาด้วยเคล็ดไม่ลับ 4 ข้อเป็นเรื่องง่ายาย แถมยังดูหรูหราในราคาที่จับต้องได้ อีกทั้งยังมีไซส์ให้เลือกที่หลากหลาย เพราะนอกจากกลุ่มลูกค้าคนไทยแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เป็นผู้พักที่โรงแรมต่างให้ความใส่ใจ ทำให้ทั้งหมดนี้ผ้าขนหนูโรงแรมจาก SP Luxury ตอบโจทย์โฮมสเตย์ รีสอร์ท และธุรกิจโรงแรมภายในประเทศไทย

5 เหตุผลที่โรงแรมควรมี “ท็อปเปอร์” ไว้ติดเตียง ตัวช่วยอัพเกรดการนอนแบบงบไม่บานปลาย!

ทำไม “ท็อปเปอร์” ถึงเป็นไอเท็มลับของการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ?

เคยไหม? แขกเข้าพักบ่นว่าที่นอนแข็งเกินไป หลับไม่สบาย หรือปวดหลังหลังจากตื่นนอน ปัญหาเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อรีวิวและความประทับใจของลูกค้า เพราะกว่า 70% ของแขกโรงแรมให้ความสำคัญกับคุณภาพที่นอนเป็นอันดับต้น ๆ หากพักแล้วนอนไม่สบายมีผลต่อการตัดสินใจกลับมาพักซ้ำอย่างแน่นอนแต่การเปลี่ยนที่นอนใหม่ทั้งโรงแรมอาจไม่ใช่ทางออกที่คุ้มค่า “ท็อปเปอร์” จึงกลายเป็นตัวช่วยที่หลายโรงแรมเลือกใช้เพราะช่วยเพิ่มความนุ่มสบายและรองรับสรีระของผู้เข้าพักได้ดีขึ้น สามารถเปลี่ยนที่นอนเดิมให้กลายเป็นเตียงระดับโรงแรม 5 ดาวโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ ทั้งยังช่วยยืดอายุที่นอน ลดต้นทุนระยะยาว และเสริมสร้างประสบการณ์การนอนที่นุ่มสบายให้กับแขกของคุณได้

5 เหตุผลสำคัญที่โรงแรมควรมี “ท็อปเปอร์”

ในธุรกิจโรงแรม ประสบการณ์ของผู้เข้าพักคือสิ่งสำคัญที่สุด และสิ่งที่มีผลต่อความพึงพอใจของแขกมากที่สุดคือคุณภาพของที่นอน “ท็อปเปอร์” เป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถเพิ่มความสบายและยืดอายุที่นอนในราคาสบายกระเป๋า มาดู 5 เหตุผลสำคัญที่โรงแรมของคุณควรลงทุนกับท็อปเปอร์กัน!

  1. เพิ่มความนุ่มสบาย ลดอาการปวดเมื่อย

ท็อปเปอร์ช่วยรองรับสรีระของผู้เข้าพัก ทำให้แรงกดทับกระจายตัวดีขึ้น ลดอาการปวดหลัง ปวดไหล่ หรือสะโพกที่มักเกิดจากที่นอนแข็งเกินไปท็อปเปอร์ที่ทำจากเมมโมรี่โฟมหรือยางพาราแท้ จะสามารถปรับตัวตามสรีระ ช่วยให้การนอนเป็นธรรมชาติมากขึ้น ส่วนท็อปเปอร์ขนเป็ดเทียมจะให้สัมผัสนุ่มฟูเหมือนเตียงโรงแรมระดับ 5 ดาว ทำให้แขกได้รับประสบการณ์การนอนที่ยอดเยี่ยม

  1. ยืดอายุการใช้งานที่นอน ประหยัดเงินในระยะยาว

เตียงนอนในโรงแรมต้องรองรับแขกจำนวนมาก ทำให้เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ท็อปเปอร์ช่วยปกป้องที่นอนจากคราบเหงื่อ ฝุ่น ลดโอกาสเกิดคราบฝังลึกที่ยากต่อการทำความสะอาด การใช้ท็อปเปอร์ที่มีคุณภาพดีจะช่วยยืดอายุที่นอนออกไปได้หลายปีและมีราคาประหยัดกว่าการเปลี่ยนที่นอนใหม่ซึ่งอาจใช้เงินมากถึงหลักหมื่นต่อเตียง

  1. ปรับระดับความนุ่ม-แน่นของที่นอนได้ตามใจชอบ

ที่นอนบางรุ่นอาจแข็งหรือนุ่มเกินไปสำหรับแขกบางคน ท็อปเปอร์ช่วยปรับระดับความนุ่ม-แน่นของที่นอนให้เหมาะกับความต้องการของแขก เช่น ท็อปเปอร์ฟองอัด เมมโมรี่โฟม หรือยางพารา สำหรับคนที่ชอบนอนแน่น รองรับสรีระได้ดี หรือ ท็อปเปอร์ขนเป็ดเทียม สำหรับคนที่ต้องการสัมผัสที่นุ่มฟูเหมือนปุยเมฆ

  1. แก้ปัญหาที่นอนเก่าให้กลับมาปังเหมือนใหม่

ถ้าที่นอนเริ่มยุบตัว แข็งเกินไป หรือให้ความรู้สึกไม่น่านอน ท็อปเปอร์ช่วยคืนความสบายให้ที่นอนเก่าได้โดยไม่ต้องลงทุนเยอะ มีโรงแรมหลายแห่งเลือกใช้ท็อปเปอร์เพื่อแก้ปัญหานี้และได้รับฟีดแบคที่ดีจากลูกค้า เช่น แขกที่เคยบ่นเรื่องที่นอนแข็ง เมื่อเพิ่มท็อปเปอร์เข้าไปก็กลับมาพักซ้ำและให้รีวิวที่ดีขึ้น

  1. ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

ท็อปเปอร์ติดตั้งง่าย เพียงแค่วางบนที่นอนแล้วใช้สายรัดหรือผ้าคลุมที่นอนช่วยยึดให้อยู่กับที่ และสามารถเคลื่อนย้ายไปใช้กับเตียงอื่น ๆ ได้ง่าย สำหรับโรงแรมที่ต้องการเพิ่มเตียงเสริม หรือที่พักที่มีลูกค้าเข้าพักแบบระยะสั้น ท็อปเปอร์ถือเป็นทางเลือกที่สะดวกและคุ้มค่ามาก นอกจากนี้ ยังมีท็อปเปอร์แบบพกพาที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการพกพาความสบายไปทุกที่

ท็อปเปอร์ : ไอเท็มที่ทุกโรงแรมไม่ควรพลาด!

เห็นไหมคะว่าท็อปเปอร์มีประโยชน์ต่อการนอนขนาดไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวหรือโฮสเทลขนาดเล็ก “ท็อปเปอร์ คือตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้เตียงของคุณนอนสบายขึ้นแบบไม่ต้องเปลี่ยนที่นอนใหม่! นอกจากจะช่วยเพิ่มความนุ่ม รองรับสรีระ ลดอาการปวดเมื่อยแล้ว ยังช่วยยืดอายุที่นอน ลดต้นทุนระยะยาว และสร้างประสบการณ์การนอนที่ยอดเยี่ยมให้แขกของคุณได้ คิดดูสิ! ลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่ได้รีวิวดี ๆ กลับมาเพียบ แขกนอนสบาย = คะแนนรีวิวพุ่ง! ถ้าคุณอยากให้ที่พักของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ลองใช้ท็อปเปอร์ดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่าการอัปเกรดเตียงไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป!

หากคุณกำลังมองหาท็อปเปอร์อยู่ แนะนำท็อปเปอร์คุณภาพพรีเมียมจาก SP Luxury Trading ที่ออกแบบมาเพื่อโรงแรมโดยเฉพาะ สัมผัสนุ่ม รองรับสรีระ และช่วยยกระดับการนอนของแขกให้เหมือนพักอยู่ในโรงแรมหรู เราพร้อมให้บริการคุณแล้ววันนี้

รวม 5 ทริคง่ายๆเลือกผ้าปูที่นอนโรงแรม เลือกอย่างไรให้ถูกใจทั้งแขกและเจ้าของ?

ผ้าปูที่นอนโรงแรม สำคัญอย่างไร?

เมื่อพูดถึงการเข้าพักในโรงแรม สิ่งที่แขกคาดหวังนอกเหนือจากการบริการที่ประทับใจ คือความสะดวกสบายและคุณภาพของอุปกรณ์ภายในห้องพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเตียงนอนและผ้าปูที่นอน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพักผ่อนที่แท้จริง

ในโลกของโซเชียลมีเดียและการรีวิวออนไลน์ ความประทับใจหรือความผิดหวังของแขกสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อชื่อเสียงของโรงแรม การเลือกใช้ผ้าปูที่นอนคุณภาพดีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ไม่เพียงแต่จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้าพัก แต่ยังช่วยยกระดับมาตรฐานการบริการของโรงแรมอีกด้วย 

รวม 5 ทริคง่ายๆเลือกผ้าปูที่นอนโรงแรม เลือกอย่างไรให้ถูกใจทั้งแขกและเจ้าของ?

การเลือกผ้าปูที่นอนโรงแรมที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงความสะอาด ความสบาย และความคงทนด้วย เพราะนอกจากจะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแขกผู้เข้าพักแล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาวอีกด้วย วันนี้เรามีทริคง่ายๆ 5 ข้อ ที่จะช่วยให้การเลือกผ้าปูที่นอนโรงแรมเป็นเรื่องง่ายและตอบโจทย์ทั้งเจ้าของและแขก มาดูกันเลย! 

1. เลือกผ้าคุณภาพดี

ผ้าปูที่นอนที่มีคุณภาพดี จะช่วยให้แขกนอนหลับสบาย รู้สึกผ่อนคลาย ไม่ระคายเคืองผิว เนื้อผ้านุ่ม ซึมซับเหงื่อได้ดี และไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ผ้าฝ้าย 100% เป็นตัวเลือกยอดนิยม เพราะให้สัมผัสที่นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี แต่ถ้าต้องการความหรูหรามากขึ้น ผ้าซาตินก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้ความรู้สึกเย็นและลื่น อย่างไรก็ตาม ควรเลือกผ้าที่มีความหนาและแน่นพอสมควร เพื่อความคงทนต่อการซักบ่อยๆ

2. เน้นความสะอาดเป็นหลัก

ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่แขกใส่ใจเมื่อเข้าพักในโรงแรม ดังนั้น ควรเลือกผ้าปูที่นอนสีขาว หรือสีอ่อน เพราะจะช่วยให้มองเห็นคราบสกปรกได้ง่าย และดูแลรักษาความสะอาดได้สะดวกกว่า นอกจากนี้ ผ้าปูที่นอนสีขาวยังช่วยเพิ่มความรู้สึกสะอาดสดชื่น และดูหรูหรา เหมาะกับโรงแรมทุกระดับ

3. คำนึงถึงขนาดที่เหมาะสม

การเลือกขนาดผ้าปูที่นอนโรงแรมให้เหมาะสมกับขนาดเตียง จะช่วยให้ปูได้ง่าย ไม่หลุดลุ่ยระหว่างการนอน และไม่เป็นรอยยับมากเกินไป ควรเผื่อขนาดผ้าปูให้กว้างและยาวกว่าเตียงเล็กน้อย เพื่อความสวยงามและเรียบร้อย ขนาดมาตรฐานทั่วไปของผ้าปูเตียงจะอยู่ที่ 3 ฟุต 3.5 ฟุต 4 ฟุต  5 ฟุต 6 ฟุต 7 ฟุต แต่หากไม่แน่ใจ สามารถวัดขนาดเตียงจริงเพื่อให้ได้ผ้าปูที่พอดีที่สุด ทาง SP Luxury รับตัดเย็บตามต้องการได้ทุกไซส์ ทุกขนาด ไม่มีจำนวนขั้นต่ำ

4. เผื่อผ้าสำรองให้เพียงพอ

การมีผ้าปูที่นอนสำรองเผื่อไว้ใช้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทั้งแม่บ้านและแขก เพราะเมื่อต้องเปลี่ยนผ้าปูบ่อยๆ จะได้มีผ้าสะอาดพร้อมใช้งานเสมอ โดยทั่วไป ควรเผื่อผ้าปูไว้อย่างน้อย 2-3 ชุดต่อห้อง เพื่อสลับเปลี่ยนหมุนเวียน และมีเวลาซักผ้าปูที่สกปรกได้ทัน ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้าปูแต่ละชุดด้วย

5. เลือกแบบที่ดูแลรักษาง่าย

นอกจากเนื้อผ้าที่มีคุณภาพแล้ว ควรเลือกผ้าปูที่ซักง่าย รีดง่าย ไม่ต้องดูแลรักษามาก เพื่อความสะดวกของพนักงาน ที่ SP Luxury  มีให้เลือก ทั้งผ้าฝ้าย และ ผ้าผสมโพลีเอสเตอร์ ซึ่งจัดเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะซักและทำให้แห้งได้เร็ว รีดแล้วเรียบง่าย ไม่ต้องเสียเวลานาน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงผ้าปูแบบมีลวดลายซับซ้อน หรือต้องรีดย้วยเป็นพิเศษ เพื่อลดภาระของพนักงานและประหยัดเวลาในการจัดเตรียมห้องพัก

การเลือกผ้าปูที่นอนโรงแรมให้เหมาะสม จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแขก พร้อมกับช่วยให้เจ้าของประหยัดต้นทุนได้ในระยะยาว หากสนใจผ้าปูที่นอนโรงแรมคุณภาพดี สามารถเข้าชมตัวเลือกต่างๆ ได้ที่ SPluxury รับรองว่าจะได้ผ้าปูที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและราคา เหมาะกับโรงแรมทุกระดับ

หากนำทริคง่ายๆ ทั้ง 5 ข้อนี้ไปปรับใช้ รับรองว่าจะเลือกผ้าปูที่นอนโรงแรมได้อย่างมั่นใจ ถูกใจทั้งแขกและเจ้าของอย่างแน่นอน เพียงแค่ใส่ใจในรายละเอียด คำนึงถึงทั้งคุณภาพ ความสะอาด ขนาด ปริมาณ และการดูแลรักษา ก็จะได้ผ้าปูที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโรงแรมของคุณ

ปลอกหมอนนั้นสำคัญไฉน: 5 สัญญาณที่คุณควรเปลี่ยนปลอกหมอนใหม่ได้แล้ว!

ปลอกหมอนนั้นสำคัญไฉน: 5 สัญญาณที่คุณควรเปลี่ยนปลอกหมอนใหม่ได้แล้ว!

หลายคนน่าจะรู้ดีว่าการนอนให้เต็มอิ่มนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องอาศัยการพักผ่อน สำหรับอุปกรณ์นอนที่ส่งเสริมให้การนอนหลับของเรามีประสิทธิภาพนอกจากเตียงนุ่มๆ ผ้าห่มหนาๆ แล้การเลือกปลอกหมอนที่มีคุณภาพก็เป็นเรื่องจำเป็นเช่นเดียวกัน 

ปลอกหมอนเป็นอุปกรณ์ที่เรามักมองข้าม แต่แท้จริงแล้วมีความสำคัญต่อคุณภาพการนอนหลับของเรามาก หากใช้ปลอกหมอนเก่าเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและความสบายในการนอน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนปลอกหมอนใหม่แล้ว วันนี้เรามี 5 สัญญาณบอกคุณ ว่าได้เวลาอัพเกรดปลอกหมอนของคุณแล้ว มาดูกันเลย!

1. ปลอกหมอนมีคราบเหลืองหรือรอยเปื้อน

หากสังเกตเห็นคราบเหลืองหรือรอยเปื้อนฝังแน่นบนปลอกหมอน แสดงว่าสิ่งสกปรกและแบคทีเรียสะสมมานาน ถึงเวลาเปลี่ยนปลอกหมอนใหม่เสียที เพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันปัญหาผิวหน้า

2. ผ้าปลอกหมอนมีกลิ่นอับ

เมื่อนอนหลับ เหงื่อและน้ำมันจากผิวจะซึมเข้าสู่ผ้าปลอกหมอน หากไม่เปลี่ยนเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดกลิ่นอับ ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ดังนั้นเมื่อได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้รีบเปลี่ยนปลอกหมอนทันที

3. รู้สึกระคายเคืองผิวหรือมีอาการภูมิแพ้

ปลอกหมอนเก่าอาจเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ ทำให้เกิดอาการคันหรือระคายเคืองผิว หากคุณมีอาการแพ้หลังตื่นนอน นั่นเป็นสัญญาณชัดเจนว่าต้องเปลี่ยนปลอกหมอนใหม่แล้ว เพื่อห่างไกลจากภูมิแพ้

4. ใช้ปลอกหมอนมานานเกินกว่า 1-2 ปี

แม้จะยังไม่เห็นความเสื่อมโทรมชัดเจน แต่หากใช้ปลอกหมอนมานานกว่า 1-2 ปีแล้ว ก็ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่ เนื่องจากเนื้อผ้าอาจเริ่มบางลง ทำให้ไม่สามารถป้องกันสิ่งสกปรกเข้าสู่หมอนได้ดีเท่าเดิม

5. ปลอกหมอนขาดหรือมีรอยฉีกขาด

หากพบว่าปลอกหมอนมีรอยขาดหรือฉีกขาด ควรเปลี่ยนทันที เพราะจะทำให้เศษผ้าและสิ่งสกปรกเข้าไปในหมอนได้ง่าย ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังทำให้หมอนเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย

เลือกปลอกหมอนคุณภาพเพื่อการนอนหลับที่ดีกว่า

ปลอกหมอนเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญ ที่มีผลต่อการนอนหลับ และสุขอนามัยโดยรวม การเลือกใช้ปลอกหมอนที่สะอาด มีคุณภาพดี และเปลี่ยนตามกำหนดอย่างเหมาะสม จะช่วยให้การพักผ่อนของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเลือกซื้อปลอกหมอนคุณภาพดีจึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ที่ SP Luxury เรามีปลอกหมอนที่ผลิตจากวัสดุชั้นเยี่ยม นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ช่วยให้นอนหลับสนิทยิ่งขึ้น พร้อมดูแลสุขภาพและผิวพรรณของคุณไปพร้อมกัน

หมั่นสังเกตสัญญาณที่บอกว่าควรเปลี่ยนปลอกหมอนใหม่ และอย่าลืมเลือกซื้อปลอกหมอนคุณภาพดีจาก SP Luxury

จริง ๆ แล้ว ท็อปเปอร์ (Topper) เหมาะสำหรับให้ใครใช้กันแน่!

เมื่อกล่าวถึงเครื่องนอน นอกจากเตียง ฟูก หมอน หมอนข้าง และผ้าห่มแล้ว ท็อปเปอร์ (Topper) ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่คนรักการนอนต้องมีไว้ติดบ้าน ทุกวันนี้หลายคนนิยมใช้ท็อปเปอร์ (Topper) เสริมลงบนที่นอนกันมากขึ้น เพราะช่วยให้ผู้นอนรู้สึกนุ่มเบาสบาย หรือแม้กระทั่งในบางครั้งบางคนมีการใช้ท็อปเปอร์ (Topper) เป็นที่นอนเสริมง่าย ๆ ก็มี แต่สงสัยกันไหมว่าแท้จริงแล้ว ท็อปเปอร์ (Topper) นั้นเหมาะสำหรับให้ใครใช้กันแน่ บทความนี้ SP Luxury Trading มีคำตอบมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย

  • คนที่มีอาการนอนไม่หลับ

หลายคนมักมีปัญหาการนอนไม่หลับ เนื่องจากที่นอนแข็งหรือมีสภาพไม่เหมาะสมต่อการนอน แต่หากวางท็อปเปอร์ (Topper) เสริมคู่ลงบนที่นอนอีกชั้น เพิ่มความหนานุ่มและยืดหยุ่นที่มากขึ้นให้กับที่นอน ช่วยให้ผู้นอนรู้สึกสบายในการพักผ่อน ยิ่งคุณสมบัติของท็อปเปอร์ (Topper) ส่วนใหญ่แล้วมักจะเนื้อสัมผัสที่ยืดหยุ่นสูง รองรับน้ำหนักในการนอนได้ดี และค่อนข้างคืนตัวได้ดี รับรองช่วยเสริมการนอนของผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้แน่นอน

  • ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเมื่อยและปวดหลัง

ท็อปเปอร์ (Topper) มีผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย นุ่มแต่มีเนื้อสัมผัสที่แน่น รองรับสรีระร่างกาย และกระจายน้ำหนักได้ดี ทำให้เมื่อนอนทิ้งตัวลงไปจะทำให้ไม่ยวบไม่ยุบตัว จนทำให้ปวดหลัง ที่สำคัญ ท็อปเปอร์ (Topper) ที่ดีมีคุณภาพจะถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับกระดูกสันหลังให้เป็นเส้นตรง รองรับการจมของหัวไหล่และสะโพก ทำให้เมื่อผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังนอนลงบนที่นอนเป็นเวลานาน จะไม่มีอาการเหน็บชา ทั้งยังช่วยลดปัญหาอาการปวดหลังได้ในระยะยาวอีกด้วย

  • ผู้ที่มีปัญหาในด้านการนอนดิ้น

ใครที่มีปัญหาการนอนดิ้น หรือมีสามีภรรยาที่ชอบลุกไปเข้าห้องนอนตอนกลางคืน ควรที่จะวางท็อปเปอร์ (Topper) ลงบนที่นอนเป็นอย่างยิ่ง เพราะท็อปเปอร์ (Topper) จะช่วยดูดซับแรงกระแทก ลดการสั่นสะเทือนบนพื้นผิวของตัวที่นอนได้เป็นอย่างดี ต่อให้ไม่ว่าจะนอนดิ้นหรือคนที่นอนด้วยจะลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ก็จะไม่เป็นการรบกวนให้คุณต้องตื่นตอนกลางคืน ช่วยให้คุณและคนที่คุณรักนอนหลับสบายตลอดคืนโดยไม่รบกวนซึ่งกันและกัน

  • กลุ่มผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุมักจะเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหาด้านกระดูก และกล้ามเนื้อที่เสื่อมสภาพตามอายุ ซึ่งที่นอนปกติอาจจะทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และปวดกระดูกไขข้อบางส่วนได้ง่าย แต่หากใช้ท็อปเปอร์ (Topper) วางเสริมลงบนที่นอนเพิ่มเติม จะช่วยให้ที่นอนมีความนุ่มและคืนตัวที่ดี รองรับสรีระร่างกาย และจัดตำแหน่งไขข้อกระดูกของผู้สูงอายุให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยหนุนกล้ามเนื้อและข้อต่อ ทำให้กลุ่มผู้สูงอายุนอนหลับได้อย่างสบายตลอดคืน

  • ครอบครัวที่มีเด็ก

ท็อปเปอร์ (Topper) เป็นอุปกรณ์เครื่องนอนที่มีคุณสมบัติป้องกันสิ่งสกปรก ฝุ่น และไรฝุ่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูกน้อย เนื่องจากเด็กเล็กมักจะมีอาการแพ้ต่อฝุ่นง่าย ยิ่งในช่วงนี้ที่มลภาวะทางอากาศในประเทศไทยมีค่าฝุ่นในอากาศที่สูงเกินมาตรฐาน การลดปริมาณฝุ่นในห้องนอนด้วยการเลือกใช้ท็อปเปอร์ (Topper) และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ จะช่วยให้ห้องนอนของคุณสะอาดปลอดภัย ลดปัญหาลูกน้อยป่วยเป็นภูมิแพ้ฝุ่นได้ดี รวมถึงไม่จำเป็นต้องเป็นครอบครัวที่มีเด็กเท่านั้น แต่หากครอบครัวใดที่มีผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้ฝุ่นและไรฝุ่น ก็ควรที่จะเลือกใช้ท็อปเปอร์ (Topper) เช่นเดียวกัน

นี่ก็คือกลุ่มคนที่ควรเลือกใช้ท็อปเปอร์ (Topper) วางเสริมลงบนที่นอน จะเห็นได้ว่าคุณสมบัติและคุณประโยชน์ของท็อปเปอร์ (Topper) นั้นส่งเสริมให้ผู้นอนในแต่ละกลุ่มนอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังหาร้านจัดจำหน่ายท็อปเปอร์ (Topper) คุณภาพดีในราคาถูก SP Luxury Trading ยินดีให้บริการ เรามีท็อปเปอร์ (Topper) คุณภาพระดับโรงแรม 5 ดาว มีหลายประเภท หลายไซซ์ หลายระดับความหนาให้เลือกซื้อได้ตามความชื่นชอบของแต่ละท่าน รับรองคุณจะได้ท็อปเปอร์ (Topper) ตรงใจคุณแน่นอน

เคล็ดลับแต่งห้องนั่งเล่นให้สวยมีสไตล์ด้วยหมอนอิงและปลอกหมอนอิง

อยู่บ้านนาน ๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มรู้สึกเบื่อบรรยากาศเดิม ๆ ในห้องนั่งเล่นที่บ้านกันไม่มากก็น้อย อยากออกมาข้างนอกเพื่อสูดอากาศ หรือเปลี่ยนฟีลลิ่งด้วยการยกเซตรีโนเวทห้องนั่งเล่นใหม่ แต่การจะรีโนเวทใหม่ทั้งหมดก็อาจเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจนเกินไป และเพื่อเป็นการแนะนำเคล็ดลับในการตกแต่งห้องนั่งเล่นง่าย ๆ แก่คุณผู้อ่านทุกท่าน ดังนั้นบทความนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับการเปลี่ยนบรรยากาศห้องนั่งเล่นให้สวยงามมีสไตล์ได้ฟีลลิ่งใหม่ ๆ ด้วยหมอนอิงและปลอกหมอนอิงกัน จะมีเคล็ดลับอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

  • สีปลอกหมอนอิงต้องสวยเด่นมีสไตล์

อยากให้ห้องนั่งเล่นมีบรรยากาศแปลกใหม่ การเลือกสีปลอกหมอนอิงนับเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ซึ่งเคล็ดลับที่เราแนะนำง่าย ๆ คือควรเลือกสีปลอกหมอนอิงโดยคำนึงถึงโทนสีและสไตล์การตกแต่งห้องนั่งเล่น ให้จับคู่สีของปลอกหมอนอิงกับดีเทลต่าง ๆ ภายในห้อง อาจจะเป็นสีของเฟอร์นิเจอร์ สีของผนังห้องนั่งเล่น สีของโต๊ะกาแฟ โคมไฟ หรือผ้าม่านก็ได้ ถ้าภาพรวมสีในห้องนั่งเล่นเข้ากันและไปด้วยกันได้ สีของปลอกหมอนอิงก็จะช่วยเติมเต็มบรรยากาศแปลกใหม่ให้กับห้องนั่งเล่นของคุณได้

  • เลือกขนาดหมอนอิงให้หลากหลาย

ส่วนใหญ่แล้วคนมักจะเลือกหมอนอิงที่มีขนาดและรูปทรงเดียวกันหมด เพราะคิดว่าเป็นวิธีที่ง่ายและคงสวยงามมากกว่าหากหมอนอิงมีลักษณะเหมือนกันทั้งหมด แต่แท้จริงแล้วการจับหมอนอิงที่มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันมาจัดวางรวมกัน จะสามารถสร้างความแตกต่าง ปรับเปลี่ยนมู้ดให้มีความหลากหลายได้มากกว่า แนะนำให้ลองนำหมอนอิงทรงสี่เหลี่ยมยาว และสี่เหลี่ยมจัตุรัสมาลองจัดรวมกันดู ง่าย ๆ แค่นี้ก็ทำให้โซฟาหรือห้องนั่งเล่นของคุณไม่ดูน่าเบื่อได้แล้ว

  • ตำแหน่งจัดวางหมอนอิงต้องดูดี

การจัดตำแหน่งหมอนอิงในห้องนั่งเล่นไม่มีกฎตายตัวว่าต้องจัดอย่างไร แต่มีเคล็ดลับง่าย ๆ คือจัดหมอนอิงให้มีความสมดุลทั้งสองฝั่งของโซฟา ไม่ควรจัดวางหมอนอิงให้กระจุกกองอยู่ที่จุดเดียว แต่ให้กระจายตัวสมดุลทั้งสองฝั่งของโซฟา จะเป็นแบบ 1 ต่อ 1 หรือ 2 ต่อ 2 ก็ได้ ขึ้นอยู่กับโซฟาในห้องนั่งเล่นของคุณด้วย หากใครชื่นชอบหรือต้องการเปลี่ยนมู้ดห้องนั่งเล่นให้มีความทันสมัยและมีอิสระมากยิ่งขึ้น อาจจัดวางเรียงหมอนอิงให้สลับขนาดเล็กใหญ่ให้เต็มโซฟาก็ดูตื่นตาตื่นใจดี แต่ใครชอบแบบเป็นระเบียบสวยงามก็จัดวางโดยเรียงจากขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังสุด แล้วเรียงลำดับขนาดเล็กลงมาอยู่ด้านหน้า แบบนี้ก็จะช่วยให้โซฟาดูเป็นระเบียบสวยงามแล้ว

  • เปลี่ยนมู้ดห้องใหม่ แค่เปลี่ยนหมอนอิงและปลอกหมอนอิง

หากคุณเบื่อบรรยากาศห้องนั่งเล่นเดิม ๆ ไม่จำเป็นต้องรีโนเวทก็ได้ เพียงแค่เปลี่ยนหมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้มีโทนสีและลวดลายใหม่ ๆ แค่นี้ภาพรวมห้องนั่งเล่นก็เปลี่ยนมู้ดใหม่ไม่ซ้ำเดิมแล้ว อยากให้ห้องสดใสมีชีวิตชีวาขึ้น ก็เปลี่ยนปลอกหมอนอิงให้มีสีสันสดใส อยากให้ห้องนั่งเล่นดูอบอุ่นก็เปลี่ยนหมอนอิงให้มีลวดลายสีดำหรือสีขาว หรืออยากเปลี่ยนมู้ดห้องนั่งเล่นให้เข้ากับฤดูกาล ก็เลือกหมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้มีลวดลายดอกไม้สีสันสดใส เพียงเท่านี้ห้องนั่งเล่นก็อบอวลไปด้วยกลิ่นอายความหวานละมุนแล้ว

ยุคนี้ที่สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่แน่นอน การประหยัดเก็บเงินสดไว้ก่อน คงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเงินรีโนเวทห้องใหม่หรอก ยิ่งใครที่เป็นคนรู้สึกเบื่อง่ายแล้ว การเลือกเปลี่ยนหมอนอิงและปลอกหมอนอิงใหม่ ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ที่นี้มาตอบคำถามกันต่อว่า ควรเลือกซื้อหมอนอิงและปลอกหมอนอิงที่ไหนดี สำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งจัดจำหน่ายหมอนอิงและปลอกหมอนอิง เราขอแนะนำให้เลือกซื้อสินค้ากับ SP Luxury Trading เพราะที่นี่มีจำหน่ายเฉพาะหมอนอิงและปลอกหมอนอิงคุณภาพสูงในราคาที่สบายกระเป๋า เกรดเดียวกับที่โรงแรมระดับ 5 ดาวเลือกใช้ ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี มีความทนทาน และมีดีไซน์ให้เลือกมากมาย รับรองได้ของดีถูกใจคุณแน่นอน

การเลือกใช้ความร้อนให้เหมาะสมต่อการทำความสะอาดชุดเครื่องนอนโรงแรม

การทำความสะอาดเครื่องนอน โดยเฉพาะปลอกหมอนและหมอนโรงแรม เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกโรงแรมต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะในประเทศไทยเรามีการสำรวจพบตัวไรฝุ่นในบ้านและที่พักอาศัย พบมากสุดในห้องนอนและเครื่องนอนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลอกหมอน ผ้านวม ผ้าปูเตียง หรือหมอนโรงแรม หากต้องการรักษาคุณภาพมาตรฐานความสะอาดในห้องพัก ทุกโรงแรมจึงจำเป็นต้องให้ความใส่ใจอย่างจริงจังในการทำความสะอาดชุดเครื่องนอน แต่การจะทำเช่นนั้นได้ นอกจากการซักทำความสะอาดหมอนโรงแรมและชุดเครื่องนอนอื่น ๆ ด้วยผงซักฟอกแล้ว สิ่งสำคัญคืออุณหภูมิความร้อนด้วย หากเลือกไม่เหมาะสมแทนที่เชื้อโรค ไรฝุ่น และคราบสกปรกจะหายไป เครื่องนอนอาจเสื่อมคุณภาพลงได้

ซักทำความสะอาดปลอกหมอนและหมอนโรงแรมด้วยความร้อนเท่าไร น้ำร้อนหรือน้ำเย็นดี?

โดยปกติแล้วการทำความสะอาดหมอนโรงแรมและผ้าต่าง ๆ ควรใช้ความร้อนในอุณหภูมิระหว่าง 40 – 60 องศาเซลเซียส ในการฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย แต่ในกรณีที่สถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดร้ายแรง องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้ทำความสะอาดผ้าปลอกหมอนและชุดเครื่องนอนต่าง ๆ ด้วยอุณหภูมิความร้อนที่ 60 – 90 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าปกติจึงจะสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ แต่การที่จะตัดสินใจว่าควรเลือกใช้ความร้อนอุณหภูมิเท่าไร โดยไม่ทำลายเนื้อผ้านั้นของปลอกหมอนและชุดเครื่องนอนนั้น สิ่งสำคัญคือให้คำนึงและเลือกจากวัสดุในการผลิตหมอนโรงแรมและชุดเครื่องนอน เพราะวัสดุแต่ชนิดนั้นทนความร้อนไม่เท่ากัน

  • ปลอกหมอนและชุดเครื่องนอนที่ควรซักด้วยน้ำร้อน

ปลอกหมอนและชุดเครื่องนอนที่ผลิตขึ้นจากผ้าฝ้ายและเส้นใยสังเคราะห์ เช่น ผ้า Cotton ผ้า CVC และผ้า TC สามารถซักทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนหรือความร้อนระดับ 40 – 60 องศาเซลเซียสได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราขอแนะนำให้ตรวจสอบป้ายสัญลักษณ์การทำความสะอาดด้วยว่าปลอกหมอนและชุดเครื่องนอนนั้น ๆ เหมาะสมกับอุณหภูมิเท่าไรแบบแม่นยำ ในส่วนของการตากปลอกหมอนก็ให้ตากไว้กลางแจ้งที่อากาศถ่ายเทและแสงแดดส่องถึง เพื่อที่แสงอาทิตย์จะได้ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย สำหรับการอบผ้าควรอบด้วยความร้อนต่ำ เพื่อป้องกันการหดตัว

  • หมอนโรงแรมและชุดเครื่องนอนที่ควรซักด้วยน้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้อง

หมอนโรงแรมหรือชุดเครื่องนอนที่มีเนื้อผ้านุ่มละเอียดอ่อน เช่น ผ้าไนลอน ผ้ายีนส์ ผ้าสแปนเด็กซ์ ผ้าชีฟอง ผ้าซาติน และผ้าสีต่าง ๆ ควรทำความสะอาดด้วยความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียสเท่านั้น เพราะหากสูงกว่านั้นความร้อนจะทำลายเนื้อผ้า ทำให้หมอนโรงแรมและชุดเครื่องนอนเสียทรงและเสื่อมสภาพได้ รวมถึงการอบด้วยก็ให้ใช้ความร้อนต่ำ เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อนของไส้หมอนโรงแรม

อย่างไรก็ตามนอกจากคุณจะต้องคำนึงในเรื่องของวัสดุของชุดเครื่องนอนแล้ว การใช้ความร้อนทำความสะอาดชุดเครื่องนอนและหมอนโรงแรม นั้นสามารถคำนึงจากวัตถุประสงค์ในการซักทำความสะอาดได้เช่นกัน หากชุดเครื่องนอนและปลอกหมอนมีคราบสกปรกฝังลึก การใช้ความร้อนต่ำและน้ำเย็นจะให้ประสิทธิภาพในการสลายคราบสกปรกได้ดีกว่า แต่หากต้องการฆ่าเชื้อโรค ความร้อนสูงคือตัวเลือกที่เหมาะสมแล้ว

นี่ก็คือเคล็ดลับการเลือกใช้ความร้อนให้เหมาะสมต่อการทำความสะอาดชุดเครื่องนอน ปลอกหมอน และหมอนโรงแรม อย่าลืมศึกษาเกี่ยวกับปลอกหมอนและชุดเครื่องนอนของคุณให้ดีเสียก่อนลงมือทำความสะอาดทุกครั้ง ด้วยการสังเกตจากป้ายสัญลักษณ์ที่ระบุไว้ เพื่อที่ชุดเครื่องนอนของคุณจะได้คงสภาพมาตรฐานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด

สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาแหล่งจัดจำหน่ายหมอนโรงแรมและชุดเครื่องนอนอื่น ๆ สามารถซื้อสินค้ากับ SP Luxury Trading ได้ เรามีสินค้าชุดเครื่องนอนมากมายให้เลือกซื้อได้ตามความต้องการ เราคัดสรรเฉพาะที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ราคาถูก ถูกสุขอนามัยและดีต่อสุขภาพมาให้จำหน่ายให้คุณได้เลือกสรรเท่านั้น หากใครที่ต้องการคำแนะนำสามารถปรึกษาทีมงานของเราได้เลย

อยากมีห้องนอนสวย ๆ แบบโรงแรม ต้องเลือกโทนสีปลอกผ้านวมให้ถูก

เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมปลอกผ้านวมโรงแรมถึงมีความสวยงามแล้วให้บรรยากาศผ่อนคลาย ชวนให้อยากนอนหลับพักผ่อน ในขณะที่ตัดภาพกลับมาที่ห้องนอนบ้านของเรา ทำไมปลอกผ้านวมเราถึงไม่ให้ความรู้สึกเช่นนั้นเลย ทั้ง ๆ ที่ปลอกผ้านวมของเรานั้นมีคุณภาพดีแล้วแท้ ๆ เคล็ดลับนั้นอยู่ที่โทนสีของปลอกผ้านวม จากผลการวิจัยพบว่าโทนสีของปลอกผ้านวมหรือสีขององค์ประกอบภายในห้องนอนนั้นมีผลต่ออารมณ์ของผู้อยู่อาศัย ทั้งในด้านจิตใจ พลังงาน หรือแม้แต่ความกระตือรือร้น สีที่แตกต่างสามารถปรับสภาพบรรยากาศและอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยได้

  • ปลอกผ้านวมโทนสีร้อนมอบความอบอุ่นในการนอน

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าห้องนอนและปลอกผ้านวมโทนสีร้อนนั้นไม่เหมาะกับห้องนอน เพราะเป็นห้องสำหรับพักผ่อน ในขณะที่โทนสีร้อนนั้นจะปรับสภาพอารมณ์ผู้อยู่อาศัยให้มีความกระฉับกระเฉง ทำให้โทนสีนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการซึมเศร้าที่ต้องการห้องนอนและปลอกผ้านวมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีชีวิตชีวา เพิ่มพลังบวกให้กับผู้นอน สำหรับท่านอื่น ๆ ที่ชื่นชอบโทนสีร้อนนั้นเราขอแนะนำให้เลือกใช้สีส้มแทนสีแดง สีส้มจะดูเป็นมิตรกว่าสีแดง มอบความอบอุ่นกำลังดี ไม่ร้อนแรงจนเกินไป

  • ปลอกผ้านวมโทนเย็นผ่อนคลายหลับสบาย

โทนเย็นนับเป็นโทนสีที่ปลอกผ้านวมโรงแรมชั้นนำต่างให้ความนิยมมากที่สุด เพราะสีโทนเย็นนั้นให้ความรู้สึกสงบร่มเย็น ผ่อนคลายชวนให้นอนหลับสบาย เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องที่มีไว้พักผ่อน โดยสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือสีฟ้าและสีเขียว ซึ่งเป็นสีที่มาจากธรรมชาติ ทำให้รู้สึกสงบและมีผลต่อการรักษาอาการเจ็บป่วย สังเกตได้จากที่ทุกโรงพยาบาลต่างนิยมใช้สีเขียวในการตกแต่งห้องผู้ป่วย รวมถึงยูนิฟอร์มของพยาบาลนั่นเอง

  • ปลอกผ้านวมที่มีลวดลายเพิ่มความโดดเด่น

นอกจากโทนสีธรรมดาแล้ว ลวดลายของปลอกผ้านวมถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยตกแต่งห้องนอนของคุณให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้นได้ ยิ่งหากใครที่ห้องนอนมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นหรือผนังห้องนอนสีเรียบแล้ว การเพิ่มลวดลายบนปลอกผ้านวมจะช่วยเพิ่มลูกเล่นและจุดเด่นสายตาให้ห้องนอนไม่ดูจืดชืดได้

  • ปลอกผ้านวมสีดำเพิ่มความเท่

สีดำไม่ค่อยได้รับความนิยมในการตกแต่งบ้านหรือห้องนอนเท่าไร โดยเฉพาะในห้องนอนที่มีขนาดเล็กนั้นไม่นิยมเลือกใช้ปลอกผ้านวมสีดำเลย เนื่องจากสีดำจะให้ความรู้สึกร้อน อึดอัด และเหมือนถูกจำกัดพื้นที่ เราจึงไม่ค่อยเห็นปลอกผ้านวมโรงแรมที่เลือกใช้สีดำสักเท่าไร แต่หากห้องนอนใครที่มีขนาดกว้างขวางมาก ทั้งยังมีอากาศไหลถ่ายเทสะดวก การใช้สีดำในการตกแต่งก็จะให้ความรู้สึกเท่ เข้ากันได้ดีทีเดียว

  • ปลอกผ้านวมสีขาวเพิ่มพลังงานด้านบวก

ปลอกผ้านวมสีขาวนับเป็นสีคลาสสิกที่เราพบเห็นได้ทั่วไปจากปลอกผ้านวมโรงแรมทุกแห่ง เพราะสีขาวนั้นไม่ว่าจะตกแต่งเข้ากับห้องนอนสไตล์ไหนก็เข้ากันดี ทั้งยังมอบความรู้สึกสบายตาและมอบพลังงานด้านบวกให้กับผู้อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันสีขาวนั้นกลับไม่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นเท่าไร จึงไม่นิยมตกแต่งห้องนอนในฤดูหนาวหรือในเมืองหนาวอย่างต่างประเทศ

เชื่อว่าใครหลายคนที่กำลังมองหาไอเดียในการซื้อปลอกผ้านวมให้เหมาะกับห้องนอนของตนเอง เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายเหมือนนอนในโรงแรม คงมีไอเดียปลอกผ้านวมโทนสีในใจกันบ้างแล้วใช่ไหม หากเจ้าของธุรกิจโรงแรมหรือใครที่กำลังมองหาซื้อปลอกผ้านวมคุณภาพดีในราคาถูก มีเนื้อผ้าและโทนสีให้เลือกซื้อ สามารถซื้อสินค้ากับ SP Luxury Trading ได้ เราคัดสรรเฉพาะปลอกผ้านวม ปลอกผ้านวมโรงแรมที่ผลิตจากวัสดุเนื้อผ้าคุณภาพดีเป็นมิตรต่อผิวสัมผัส มีสีให้เลือกมากมาย ทั้งยังจำหน่ายในราคาที่เป็นมิตร รับรองคุณจะได้ปลอกผ้านวมที่ถูกใจเข้ากับบรรยากาศห้องนอนในสไตล์ของคุณแน่นอน

เคล็ดลับการเลือกซื้อเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง

เคล็ดลับการเลือกซื้อเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง

เคล็ดลับการเลือกซื้อเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง

เสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง (slipper) เป็นสิ่งที่ทุกโรงแรมในระดับ 3 ถึง 5 ดาว จัดเตรียมไว้ให้ลูกค้าที่มาเข้าใช้บริการเสมอ ซึ่งในสมัยก่อนแขกส่วนมากหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชินจึงไม่นิยมใส่กันมากนัก แต่ในสมัยนี้ที่ค่านิยมเริ่มมีการเปลี่ยนไป แขกคนไทยหลายคนเริ่มหันมาใช้ประโยชน์และสวมใส่กันมากขึ้นแล้ว บางคนติดใจจนถึงขั้นซื้อติดไว้สวมใส่ที่บ้านตนเองด้วยก็มี ดังนั้นบทความนี้มาดูเคล็ดลับในการเลือกซื้อเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งกันดีกว่า เลือกอย่างไรจึงจะได้ของดีคุณภาพเยี่ยมตอบโจทย์รสนิยมคุณมากที่สุด มาดูกันเลย

  • ต้องผลิตจากเนื้อผ้าคุณภาพดี

เลือกซื้อเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งที่ผลิตจากเนื้อผ้าคอตตอนคุณภาพดี 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เนื่องจากจะทำให้ได้เนื้อผ้าที่มีความนุ่ม น้ำหนักเบา และสวมใส่สบาย ที่สำคัญผ้าคอตตอนยังเป็นเส้นใยผ้าธรรมชาติ ทำให้ผู้สวมใส่ไม่รู้สึกระคายเคืองหรือเกิดอาการแพ้ อีกทั้งยังสามารถซักทำความสะอาดและดูแลรักษาได้ง่าย ซักแล้วไม่เสียรูปทรงแน่นอน

  • ต้องตัดเย็บประณีตดีไซน์สวย

นอกจากคุณภาพในการผลิตและการใช้งานแล้ว อย่าลืมเลือกซื้อเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง (slipper) ที่มีดีไซน์สวยงาม ตัดเย็บรายละเอียดประณีตเก็บครบทุกจุดด้วย ยิ่งหากซื้อไว้ให้ลูกค้าสวมใส่เองแล้ว สินค้าตัดเย็บไม่เรียบร้อยก็จะทำให้โรงแรมหรือธุรกิจแบรนด์ของคุณเสียภาพลักษณ์ได้ สำหรับใครที่ไม่รู้จะเลือกซื้อสีอะไรดี เราแนะนำให้เลือกซื้อสีพิมพ์นิยม ซึ่งก็คือสีขาว เพราะให้ความรู้สึกเบาสบาย สวมใส่แล้วผ่อนคลาย

  • ต้องเป็นหกเหลี่ยม

รองเท้ารังผึ้ง (slipper) และเสื้อคลุมรังผึ้งของแท้ต้องมีลักษณะเป็นหกเหลี่ยมเหมือนลักษณะรังผึ้ง เนื่องจากรูปทรงหกเหลี่ยมนั้นมีประโยชน์ในแง่ของการใช้งาน ทั้งยังช่วยในการระบายอากาศได้ดี ผู้สวมใส่สามารถปรับอุณหภูมิร่างกายได้ง่ายยิ่งขึ้น สวมใส่แล้วรู้สึกสบายตัว ฉะนั้นถ้าเลือกซื้อแล้วต้องเป็นลักษณะรูปทรงหกเหลี่ยมเท่านั้น

  • จากไซซ์ที่เหมาะสม

การเลือกซื้อเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งที่ดีจะต้องมีไซซ์ที่ไม่ใหญ่หรือไม่เล็กจนเกินไป เพื่อที่เมื่อแขกสวมใส่แล้วจะได้มีขนาดกระชับพอดีตัว สวมใส่สบายไม่แน่นจนอึดอัดหรือหลวมจนไม่กระชับสัดส่วนร่างกาย หากใครที่กังวลไม่รู้จะซื้อไซซ์อย่างไรดี เราแนะนำให้เลือกไซซ์ที่ใหญ่ไว้ก่อนหรือแบบ Free Size และ Unisex จะดีที่สุด เพราะคุณเจ้าของกิจการสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ต้องกังวลว่าลูกค้าที่มาใช้บริการจะเป็นผู้ชายหรือผู้ใหญ่ ไซซ์ใหญ่หรือเล็กเลย

  • จำหน่ายในราคาที่สมเหตุสมผล

ไม่เสมอไปว่าเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง คุณภาพดีจะต้องจำหน่ายในราคาที่แพงเสมอไป เราขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อสินค้าโดยคำนึงถึงราคาที่สมเหตุสมผลจะดีที่สุด ไม่ควรเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกจนเกินไป เพราะคุณอาจจะได้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพหรือผลิตจากผ้าคุณภาพต่ำก็เป็นได้ รวมถึงราคาที่แพงจนเกินไปก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นของดีเสมอไป อาจจะเป็นของย้อมแมวมาจำหน่ายก็เป็นได้ ให้พิจารณาเลือกซื้อโดยคำนึงถึงราคาควบคู่กับปัจจัยอื่น ๆ ข้างบนตามไปด้วย

หากใครที่กำลังมองหาซื้อเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งเนื้อผ้านุ่ม ตัดเย็บประณีต น้ำหนักเบาสวมใส่สบาย ในราคาที่สมเหตุสมผล สามารถเลือกซื้อสินค้ากับ SP Luxury Trading ได้ ที่นี่เราคัดสรรเฉพาะคุณภาพดีมาจำหน่ายให้คุณเท่านั้น สำหรับท่านใดที่มีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามทีมงานของเราได้ทันที ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเลย

Scroll to Top