บทความ

ความสำคัญของปลอกผ้านวม และไส้ผ้านวม

ความสำคัญของปลอกผ้านวม และไส้ผ้านวมที่มีดีมากกว่าเพียงแค่ความสวยงาม

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมการนอนหลับพักผ่อนในโรงแรม 5 ดาว ถึงให้ความรู้สึกที่สบายและผ่อนคลายกว่าการนอนหลับพักผ่อนที่บ้านตนเอง ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับของโรงแรมนั้นก็คือผ้านวมและปลอกผ้านวมนั่นเอง โดยผ้านวมที่ทางโรงแรมเลือกใช้จะต้องมีไส้ผ้านวมที่มีคุณภาพดีเยี่ยม และปลอกผ้านวม โรงแรมจะต้องมีความสวยงาม โดดเด่น และสามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้พักอาศัยได้ตั้งแต่แรกเห็น แต่เชื่อหรือไม่ว่า ประโยชน์ของปลอกผ้านวมและไส้ผ้านวมยังมีดีมากกว่านั้น บทความนี้เราจะมีอธิบายให้คุณเข้าใจถึงประโยชน์ของปลอกผ้านวมและไส้ผ้านวมกันมากยิ่งขึ้น มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย

ประโยชน์ของปลอกผ้านวมที่ดีจนทุกโรงแรมต้องเลือกใช้

  • ยืดอายุการใช้งานให้ผ้านวมและไส้ผ้านวม

การใช้ปลอกผ้านวมนอกจากจะช่วยให้ผ้านวมและไส้ผ้านวมใช้งานได้นานยิ่งขึ้นโดยไม่สูญเสียรูปทรงแล้ว ยังช่วยทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปในผ้านวมและไส้ผ้านวมไว้อีกชั้นหนึ่งด้วย ดังนั้นทุกโรงแรมจึงมักเลือกสวมใส่ปลอกผ้านวมโรงแรมคุณภาพดีไว้เสมอ เพื่อคงประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้เช่นกัน

  • ทำความสะอาดผ้านวมง่ายยิ่งขึ้น

คุณสมบัติที่สำคัญของปลอกผ้านวม คือการถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่ายมาก ง่ายกว่าการนำผ้านวมไปซักทำความสะอาดเสียอีก เพราะการซักผ้านวมหากไม่ดูแลให้ดี ไส้ผ้านวมก็อาจจะเสื่อมสภาพการใช้งานลงได้ ดังนั้นผ้านวมไหนที่สวมใส่ปลอกผ้านวมก็เพียงแค่ถอดปลอกผ้านวมไปซักให้สะอาด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับผ้านวมที่สะอาด มีกลิ่นหอมพร้อมนอนหลับสบายกันต่อแล้ว

  • ปกป้องคราบสิ่งสกปรกไม่ให้ซึมเข้าไปในไส้ผ้านวม

นอกจากฝุ่นและคราบสิ่งสกปรกแล้ว ปลอกผ้านวมยังช่วยป้องกันฝุ่นจากชุดนอน เครื่องแต่งกาย และคราบน้ำลายจากการนอนหลับของเราไม่ให้ซึมเข้าไปสัมผัสในผ้านวมและไส้ผ้านวมได้อีกด้วย เพราะเหตุนี้ทุกโรงแรมจึงมักสวมใส่ปลอกผ้านวมโรงแรมที่มีคุณภาพสูง และสามารถถอดทำความสะอาดได้ง่ายไว้เสมอ เพราะหากผ้านวมมีรอยคราบสกปรกก็คงไม่มีลูกค้าคนใดอยากเข้าพักในโรงแรมของคุณกันใช่ไหมละ

  • เพิ่มบรรยากาศชวนให้นอนหลับสบาย

เตียงที่จัดแต่งให้มีความสวยงาม เรียบร้อยเป็นระเบียบ และมีปลอกผ้านวมที่มีโทนสีสะอาดสบายตา นอกจากจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และมอบความสวยงามแก่ห้องนอนของโรงแรมแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศชวนให้ผู้พักอาศัยรู้สึกผ่อนคลาย และอยากที่จะล้มตัวนอนมากกว่าการนอนหลับบนเตียงที่บ้านตนเองเสียอีก

ประโยชน์ของไส้ผ้านวมที่คุณอาจไม่เคยรู้!

  • มอบความอบอุ่นและนอนหลับสบาย

ผ้านวมและไส้ผ้านวมที่ดีจะต้องให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มเบาสบาย อบอุ่นแต่ไม่หนาหรือบางจนเกินไป โดยจะใช้ห่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นก็ได้ หรือจะใช้สำหรับปูนอนบนเตียงอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความนุ่มสบายยิ่งขึ้น จะใช้งานแบบไหนก็ส่งเสริมให้ผู้นอนรู้สึกหลับสบายยิ่งขึ้นทั้งนั้น

  • รีสตาร์ทเหมือนได้ผ้านวมใหม่

ผ้านวมเมื่อใช้งานไปนาน ๆ นอกจากการซักทำความสะอาดปลอกผ้านวมและไส้ผ้านวมแล้ว การเปลี่ยนไส้ผ้านวมก็นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานผ้านวมได้ยาวนานยิ่งขึ้นจนเหมือนได้รับผ้านวมใหม่กันเลยทีเดียว เพราะไส้ผ้านวมที่ใช้งานไปนานๆ ก็มักจะเสื่อมสภาพตามกาลเวลาเสมอ การเปลี่ยนไส้ผ้านวมก็เหมือนการกำจัดไส้ในทิ้ง แล้วเติมใหม่ให้กลับมาดีดังเดิมนั่นเอง

  • ลดอาการภูมิแพ้แก่ผู้นอน

ไส้ผ้านวมและปลอกผ้านวมที่ซักทำความสะอาดบ่อย ๆ นอกจากจะช่วยให้นอนหลับอิ่มสบายแล้ว ยังถือเป็นการกำจัดสิ่งสกปรก และเชื้อแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่บนเตียงนอนของคุณได้ ช่วยให้คุณนอนหลับสบาย ไม่คันเนื้อคันตัว และลดอาการภูมิแพ้ของคนที่แพ้ฝุ่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้าง พอจะเข้าใจถึงความสำคัญของปลอกผ้านวมและไส้ผ้านวมกันแล้วใช่ไหม หากใครที่ต้องการปรับแต่งห้องนอนและเตียงนอนของคุณให้มีนุ่มสบาย และมีบรรยากาศน่านอนเหมือนในโรงแรม 5 ดาว ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกปลอกผ้านวมและไส้ผ้านวมกันด้วยละ สุดท้ายนี้หากใครที่กำลังมองหาแหล่งซื้อปลอกผ้านวม โรงแรม และไส้ผ้านวมคุณภาพดี ราคาถูก สามารถติดต่อฝ่ายขายของ SP Luxury Trading กันได้ ทีมงานของเรายินดีให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายแก่คุณอย่างเต็มที่

เลือกปลอกหมอน

เลือกปลอกหมอนอย่างไรให้ถูกใจ นอนหลับสบาย

การนอนหลับคือหัวใจของการพักผ่อนสำหรับทุกเพศทุกวัย เครื่องนอนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการนอนหลับโดยตรง แม้แต่เครื่องนอนที่หลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักอย่าง “ปลอกหมอน” ก็ยังมีส่วนทำให้นอนหลับสบายได้อย่างคาดไม่ถึง คนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับหมอน หมอนโรงแรม และที่นอนมากกว่าปลอกหมอน แต่แท้จริงแล้ว ปลอกหมอนก็เป็นเครื่องนอนที่ทำหน้าที่คล้ายผ้าปูที่นอน ซึ่งใบหน้าและร่างกายของเราจะต้องสัมผัสโดยตรง ดังนั้น เราจึงควรพิจารณาเลือกซื้อปลอกหมอนที่มีคุณภาพ หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกปลอกหมอนแบบไหนดี เรามีคำตอบมาฝาก

เลือกปลอกหมอนที่ตรงกับรูปทรงของหมอน

แน่นอนว่าหมอนหรือหมอนโรงแรมนั้นมีรูปทรงและขนาดที่แตกต่างกัน และยังแบ่งออกเป็นหมอนหนุน หมอนอิง หรือหมอนข้าง ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อปลอกหมอนสำหรับหมอนหรือหมอนโรงแรม คุณจำเป็นจะต้องทราบรูปทรงและขนาดของหมอนเสียก่อนเพื่อให้พอดีกับหมอนของคุณ หากปลอกหมอนเล็กเกินไปก็อาจไม่สามารถสวมหมอนได้หรือหากใหญ่เกินไปก็จะทำให้รุ่มร่าม รู้สึกไม่สบายได้ ดังนั้นจึงควรเลือกปลอกหมอนที่พอดีกับขนาดหมอนเพื่อป้องกันไม่ให้ปลอกหมอนเลื่อนหลุดออกหมอนแม้จะมีการขยับมากเพียงใดก็ตาม

เลือกปลอกหมอนจากวัสดุที่ใช้ผลิตปลอกหมอน

ในปัจจุบัน ปลอกหมอนมักผลิตจากวัสดุที่หลากหลาย อาทิ ผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ้า TC ผ้าคอตตอน ผ้าคอตตอนผสมลินิน ผ้าซาติน เป็นต้น ซึ่งผ้าแต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องของความนุ่ม ความกระด้าง ความเงางาม การดูดซับความชื้น ความทนทาน ฯลฯ โดยนอกจากจะส่งผลต่อการนอนหลับแล้ว เนื้อผ้ายังส่งผลต่อความสวยงามโดยรวมของห้องอีกด้วย ผ้าปลอกหมอนที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ผ้าคอตตอนเนื่องจากเป็นเส้นใยธรรมชาติ สัมผัสนุ่มสบาย มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ร้อน สามารถระบายอากาศได้ดี ทำความสะอาดได้ง่าย และยังช่วยเรื่องไม่ระคายผิวหน้า ลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้อีกด้วย

เลือกปลอกหมอนจากความหนาแน่นของเส้นใย

ความหนาแน่นของเส้นใย หมายถึง จำนวนเส้นด้ายต่อพื้นที่ 1 ตารางนิ้วหรือหนึ่งหน่วย เส้นด้ายยิ่งมากหมายความว่าเนื้อผ้ายิ่งแน่น ยิ่งเรียบ ซึ่งก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน อาทิ

  • ปลอกหมอนผ้า CVC 190เส้น – ทำความสะอาดง่าย ระบายอากาศได้ดี
  • ปลอกหมอนผ้า Cotton 230 เส้น– ให้ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว ไม่กักเก็บความร้อน
  • ปลอกหมอนผ้า Cotton 260 เส้น– ให้ความนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม อายุการใช้งานทนทาน
  • ปลอกหมอนผ้า Cotton 300 เส้น- ถักทอ 300 เส้นด้ายซึ่งเป็นจำนวนมาตรฐาน ทนทาน ซักได้บ่อย หรือทำให้ระคายเคืองผิว
  • ปลอกหมอนผ้า Cotton 500 เส้น- ถักทอ 500 เส้นด้ายซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในไทยตอนนี้ สัมผัสเบาสบาย นุ่มนวลผิวหน้าเป็นอย่างมาก

จะเห็นได้ว่าปลอกหมอนก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเครื่องนอนชิ้นอื่น ๆ เลย การใช้ปลอกหมอนคุณภาพดีสำหรับสวมหมอนหรือหมอนโรงแรมส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกสบายและคุณภาพการนอนหลับ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ยิ่งปลอกหมอนมีคุณภาพดีเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างผลลัพธ์ได้มากขึ้นเท่านั้น นับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและเปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้บอกเล่ากันไปปากต่อปากโดยไม่ต้องเสียงบประมาณไปกับการประชาสัมพันธ์ SP Luxury Trading ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลอกหมอนคุณภาพสูงสำหรับหมอนทั่วไปและหมอนโรงแรม มีรูปแบบให้เลือกทั้งปลอกหมอนมาตรฐานและปลอกหมอนแบบมีปีก รวมถึงเนื้อผ้าหลากหลาย อาทิ ผ้า CVC ผ้า TC ผ้า Cotton ทั้งผ้าสีเรียบ ทอลายริ้ว ตารางหมากรุก ฯลฯ รับประกันความทนทาน สวยงาม พร้อมบริการให้คำแนะนำในการเลือกซื้อปลอกหมอน หมอนโรงแรม และเครื่องนอนทุกชนิด ที่สำคัญราคาเป็นมิตร รับรองถูกใจคุณอย่างแน่นอน

เลือกหมอนอิง

เทคนิคการเลือกหมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้เข้ากับสไตล์ห้องพัก

เชื่อว่าใครหลายคน เมื่ออยู่อาศัยในห้องพักหรือห้องนั่งเล่นเดิม ๆ เป็นเวลานาน ต่างก็ต้องมีความรู้สึกเบื่อกับบรรยากาศเดิม ๆ กันไม่มากก็น้อย ซึ่งนอกจากการปรับรีโนเวทห้องพักใหม่ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายพอสมควรแล้ว การตกแต่งห้องพักด้วยหมอนอิงและปลอกหมอนอิงลายใหม่ ๆ ก็สามารถช่วยให้ห้องพักเดิม ๆ ของคุณมีความสดใส เติมความเก๋ไก๋ให้ไม่รู้สึกเบื่อได้ และเพื่อเป็นการแนะนำเคล็ดลับในการตกแต่งห้องง่าย ๆ แก่คุณผู้อ่านทุกท่าน

ฉะนั้นบทความนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคในการเลือกหมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้เข้ากับสไตล์ห้องพักของคุณ จะมีเคล็ดลับและเทคนิคอย่างไรนั้นมาเรียนรู้และทำความเข้าใจกันเลย

วิธีการเลือกหมอนอิงและปลอกหมอนอิง

การเลือกหมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้มีความสวยงามเข้ากับสไตล์ห้องนั้น สิ่งสำคัญคือคุณต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและคุณลักษณะของหมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้ดี มิเช่นนั้นแทนที่คุณจะตกแต่งให้สวยงาม ก็อาจจะได้ห้องที่ดูแปลก ขาดความกลมกลืนก็เป็นได้ ซึ่งปัจจัยสำคัญเหล่านั้น มีดังนี้

  • ขนาดของหมอนอิง

หลักการเบื้องต้นในการเลือกซื้อหมอนอิงให้มีความสวยงาม คือคุณต้องใช้ขนาดของเฟอร์นิเจอร์ โซฟา หรือเตียงนอนเป็นที่ตั้ง เพื่อที่จะได้มองหาขนาดของหมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้มีไซซ์ที่เหมาะสม ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไปเมื่อนำไปจัดตั้งบนเฟอร์นิเจอร์ มีตั้งแต่ขนาด 12×12 นิ้ว 14×14 นิ้ว 16×16 นิ้ว 18×18 นิ้ว และ 20×20 นิ้ว หากคุณเลือกหมอนอิงที่มีขนาดใหญ่จนเกินไปก็จะทำให้ห้องของคุณดูแคบและอึดอัด ในทางตรงกันข้าม หากเลือกหมอนอิงที่เล็กจนเกินไปก็จะทำให้ห้องและโซฟาของคุณดูโล่งไม่สวยงาม ซึ่งปกติแล้วไซซ์มาตรฐานที่ได้รับความนิยมมาก มักจะเป็นไซส์ขนาด 18×18 นิ้ว ที่จัดเป็นขนาดมาตรฐานและเหมาะสำหรับโซฟาทั่วไป

  • จำนวนของหมอนอิง

นอกจากต้องเลือกไซซ์หมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้เหมาะสมแล้ว จำนวนของหมอนอิงก็นับเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เนื่องจากจำนวนของหมอนอิงสามารถสร้างความสมดุลและจัดองค์ประกอบภายในห้องของคุณให้มีความกลมกลืนไม่ดูเยอะหรือโล่งเกินไปได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การเลือกจำนวนหมอนอิงเพื่อตกแต่งนั้นไม่มีหลักการที่ตายตัว แต่ผู้คนก็มักนิยมวางหมอนอิงให้เป็นจำนวนคี่ เพราะจะช่วยส่งเสริมให้ห้องพักของคุณมีความโมเดิร์นและดูทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของโซฟาหรือเตียงด้วย หากโซฟามีขนาดใหญ่มาก ก็สามารถเลือกวางหมอนอิงได้ถึง 7 ใบเลยทีเดียว

  • สีสันและลวดลายของปลอกหมอนอิง

หากคุณเลือกปลอกหมอนอิงที่มีโทนสีและลวดลายที่กลมกลืนกับโซฟาจนเกินไป แทนที่คุณจะได้ห้องที่สวยงาม สดใส กลับจะได้ห้องที่มีความหม่นหมองและเหงาหงอยแทน ดังนั้นเราแนะนำให้คุณลองนำกฎ 3 ข้อแตกต่างมาใช้กันดู โดยเลือกสีสันและลวดลายของปลอกหมอนอิงและหมอนอิงแต่ละใบให้มี 3 เฉดสี 3 ลวดลายที่แตกต่างกัน ซึ่งเฉดสีและลวดลวยต้องมีความสมดุลและส่งเสริมให้บรรยากาศของคุณมีความสดใส เก๋ไก๋ และทันสมัยขึ้นด้วย เช่น การเลือกสีปลอกหมอนอิงสีน้ำเงิน สีเทา และสีฟ้าคราม เพื่อตกแต่งโซฟาสีฟ้าเข้ม เป็นต้น

  • สไตล์ของห้อง

สิ่งสุดท้ายในการเลือกหมอนอิงและปลอกหมอนอิงนั้น คุณจะต้องใส่ใจถึงสไตล์ของห้องคุณด้วย หากคุณตกแต่งห้องโดยมีความวินเทจ มีความคลาสสิก คุณก็จะต้องเลือกโทนสีและลวดลายของปลอกหมอนอิงให้มีความวินเทจ ลายดอกไม้เหมือนกับสไตล์ของห้อง หรือถ้าหากคุณตกแต่งห้องให้มีความโมเดิร์นทันสมัย โทนสีของปลอกหมอนอิงก็จะต้องโมเดิร์นทันสมัย ไม่ควรมีลายลาย ก็จะช่วยส่งเสริมให้ห้องของคุณดูสวยงามยิ่งขึ้นได้

ซื้อหมอนอิงและปลอกหมอนอิงที่ไหน?

เมื่อคุณเข้าใจถึงหลักวิธีการเลือกซื้อหมอนอิงและปลอกหมอนอิงให้เข้ากับสไตล์ห้องพักและเฟอร์นิเจอร์ของคุณกันแล้ว ที่นี่มาถึงคำถามสำคัญที่เราเชื่อว่าใครหลายคนต่างก็กำลังสงสัยกันอยู่ แล้วจะหาซื้อหมอนอิงและปลอกหมอนอิงที่ตรงมีคุณสมบัติเหมาะสมจากที่ไหน เพื่อไม่ให้เป็นการยุ่งยากแก่คุณผู้อ่านทุกท่านจนเกินไป เราขอแนะนำให้คุณลองเลือกซื้อหมอนอิงและปลอกหมอนอิงจาก SP Luxury Trading กันได้ ที่นี่เรามีบริการจำหน่ายหมอนอิงและปลอกหมอนอิงคุณภาพสูงมากมาย ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี มีความทนทาน สวยงามให้คุณเลือกซื้อได้ตามต้องการ ที่สำคัญราคาเป็นมิตร รับรองถูกใจคุณอย่างแน่นอน

หมอนขนห่านเทียม หมอนสุขภาพสำหรับผู้นอนทุกช่วงวัย

เชื่อว่าใครหลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ในการนอนหลับบนหมอนขนห่านเทียมกันไม่มากก็น้อย เพราะหมอนขนห่านเทียมเป็นหมอนที่ได้รับความนิยมมากในโรงแรมระดับ 5 ดาว เนื่องจากเป็นหมอนคุณภาพดีที่ให้ประโยชน์หลากหลายแก่ผู้นอนในทุกช่วงวัย อีกทั้งยังสามารถทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่อคงประสิทธิภาพในการใช้งานได้ง่ายอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการใช้งานหมอนขนห่านเทียม บทความนี้เราจะมาช่วยอธิบายให้คุณเข้าใจลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับหมอนขนห่านเทียม มาทำความเข้าใจและเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย

หมอนขนห่านเทียมเหมาะกับผู้นอนกลุ่มใดเป็นพิเศษ

  • พนักงานออฟฟิศหรือกลุ่มคนทำงาน

พนักงานออฟฟิศหรือกลุ่มคนทำงานในสมัยนี้ มักจะมีพฤติกรรมนั่งทำงานเป็นเวลานาน ส่งผลให้ร่างกายของคนในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดล้ากล้ามเนื้อตามบริเวณคอ ไหล่ และหลัง หากใครที่มีอาการหนัก ๆ ก็จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมหรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทก็เป็นได้ ดังนั้นการนอนหลับพักผ่อนโดยใช้หมอนขนห่านเทียมที่ผลิตจากเส้นใยไมโครไฟเบอร์ ทำให้มีคุณสมบัติที่ดีในการรักษารูปทรงของหมอนและสามารถปรับน้ำหนักเพื่อรองรับสรีระการนอนของคนในกลุ่มนี้ได้ ช่วยให้ร่างกายและกล้ามเนื้อบริเวณคอไหล่บ่าของคนทำงานได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ดีต่อสุขภาพ

  • ผู้สูงอายุ

กลุ่มผู้สูงอายุจะเป็นวัยที่มีปัญหาในเรื่องของกระดูกและการปวดเมื่อยตามร่างกายมากกว่ากลุ่มเด็ก โดยเฉพาะบริเวณหมอนรองกระดูกคอที่มักจะมีอาการเสื่อมตามช่วงวัยและการใช้งาน ดังนั้นการเลือกหมอนขนห่านเทียมให้ผู้สูงอายุได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบาย นับเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุเลยทีเดียว เพราะหมอนขนห่านเทียมจะผลิต จากเส้นใยไมโครไฟเบอร์ขนาดเล็กมากและภายนอกหุ้มด้วยผ้า TC210 ที่มีความนิ่ม ช่วยให้สัมผัสที่นุ่มสบาย นอนแล้วไม่ปวดเมื่อย นอนหลับสบายตลอดคืน

  • ผู้นอนที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้

หมอนขนห่านเทียมผลิตจากเส้นใยไมโครไฟเบอร์ที่เป็นมิตรต่อผู้นอน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้เหมือนหมอนขนห่านแท้ เนื่องจากหมอนขนห่านแท้มักจะมีปัญหาในการสะสมไรฝุ่นหากดูแลรักษาได้ไม่ดีพอ แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น หากคุณเลือกใช้หมอนขนห่านเทียม เนื่องจากเส้นใยไมโครไฟเบอร์นั้นดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการลดการสะสมไรฝุ่นและกลิ่นเหม็นอันไม่พึงประสงค์ จึงเหมาะกับผู้นอนที่มีอาการป่วยเป็นโรคภูมิแพ้จริง ๆ

  • ผู้นอนที่มีอาการปวดคอ

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยไหน หากคุณมีอาการปวดคอ การนอนหลับบนหมอนขนห่านเทียมจะช่วยให้คุณสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายตลอดคืนโดยไม่มีอาการปวดคอเลย เนื่องจากหมอนขนห่านเทียมจะถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นคืนตัวได้ดี นุ่มและสบาย อีกทั้งยังมีหลากหลายขนาดให้ผู้นอนได้เลือกซื้อตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยเลยทีเดียว จัดได้ว่าเป็นหมอนสุขภาพที่ดีต่อทั้งเด็กและกลุ่มผู้ใหญ่เลย

นี่ก็คือคุณสมบัติและประโยชน์ของหมอนขนห่านเทียมที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสมต่อการใช้งานในทุกช่วงวัย สำหรับเจ้าของธุรกิจโรงแรมหรือลูกค้าท่านใดที่กำลังมองหาซื้อหมอนขนห่านเทียมคุณภาพดี มีซิป สามารถปรับเพิ่มระดับความสูงได้เอง และหาซื้อได้ในราคาสบายกระเป๋า

สามารถติดต่อสอบถาม SP Luxury Trading ผู้ให้บริการจัดจำหน่ายหมอนขนห่านเทียมคุณภาพดีกันได้ ทีมงานของเรามีความรู้ความชำนาญในด้านนี้โดยเฉพาะ พร้อมให้คำปรึกษาคุณในการเลือกซื้อหมอนขนห่านเทียม หรือหมอนขนเป็ดเทียมได้อย่างแน่นอน

ท็อปเปอร์ (Topper) ทางเลือกใหม่ของคนรักในการนอน

เชื่อหรือไม่ว่าข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตระบุไว้ว่า คนไทยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ มีสภาวะนอนหลับไม่เพียงพอ นี่ยังไม่นับรวมถึงกลุ่มคนที่นอนหลับแต่มีอาการปวดหลังและได้รับผลกระทบจากที่นอนไม่ได้มาตรฐาน สุดท้ายแล้วกลุ่มคนเหล่านี้มักจะต้องมองหาที่นอนใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ และช่วยให้นอนหลับง่ายยิ่งขึ้น ทุกปัญหาเหล่านี้จะหมด หากคุณเลือกใช้ท็อปเปอร์ (Topper) แผ่นรองนอนคุณภาพสูงที่ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นและคำนึงถึงสุขภาพในการนอนของคุณเป็นอย่างดี

ท็อปเปอร์ (Topper) และที่นอนแตกต่างกันอย่างไร?

ท็อปเปอร์ (Topper) หรือที่หลายคนมักจะรู้จักกันในลักษณะแผ่นรองนอน เบาะรองนอนที่ไว้ใช้ปูทับบนที่นอนอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งท็อปเปอร์ (Topper) สามารถรองรับน้ำหนักและสรีระของผู้นอนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผู้นอนทุกคนนอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น และไม่มีอาการปวดหลังอีกต่อไป สำหรับการแยกความแตกต่างระหว่างท็อปเปอร์และที่นอน สามารถจำแนกได้จากการใช้งานและลักษณะที่แตกต่างกันดังนี้

ท็อปเปอร์ (Topper) มีลักษณะดังนี้

  • ท็อปเปอร์ (Topper) ถูกออกแบบมาให้ใช้งานคู่กับที่นอนเป็นหลัก
  • มีความหนาแน่นที่บางกว่าและเบากว่าที่นอนมาก ทำให้พกพาไปได้สะดวก สามารถใช้งานได้ทุกที่
  • สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์มากกว่าที่นอน จะใช้ปูเป็นพื้นรองนั่งหรือที่นอนแก้ขัดก็ได้

ที่นอนมีลักษณะดังนี้

  • มีขนาดใหญ่ มีความหนาแน่น และน้ำหนักที่มากกว่าท็อปเปอร์ (Topper)
  • ด้วยขนาดและน้ำหนักที่สูง ทำให้ไม่สามารถพกพาไปไหนได้ ต้องจัดวางในพื้นที่เฉพาะเท่านั้น
  • ถูกออกแบบให้มีระยะการใช้งานที่ยาวนาน

ท็อปเปอร์ (Topper) มีกี่แบบ และควรเลือกซื้อแบบไหนถึงตอบโจทย์มากที่สุด

การจัดแบ่งประเภทของท็อปเปอร์ (Topper) สามารถแบ่งได้ตามวัสดุของท็อปเปอร์ ซึ่งหลัก ๆ แล้วมี 5 แบบด้วยกัน ได้แก่

  1. ท็อปเปอร์ (Topper) ที่ผลิตจากฟองน้ำอัด ถือเป็นท็อปเปอร์ที่มีราคาถูก ความหนาแน่นขึ้นอยู่กับราคา
  2. ท็อปเปอร์ (Topper) ยางพารา นับเป็นอีกหนึ่งท็อปเปอร์ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีความยืดหยุ่นสูงและมีอายุการใช้งานสูง
  3. ท็อปเปอร์ (Topper) ใยไมโครเจลหรือขนห่านเทียม เป็นท็อปเปอร์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด มีความนุ่มยืดหยุ่นสูง หากเป็นเกรดที่มีส่วนผสมของขนห่านเทียม 100 เปอร์เซ็นต์จะถือเป็นเกรดที่ใช้ในโรงแรมระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว
  4. ท็อปเปอร์ (Topper) โพลีเอสเตอร์ เป็นท็อปเปอร์ที่ทำจากฝ้าย ทำความสะอาดง่าย มีทั้งแบบเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์ หากเป็นใยฝ้ายของธรรมชาติแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะมีราคาแพงมาก
  5. ท็อปเปอร์ (Topper) ขนสัตว์ ส่วนใหญ่จะผลิตจากขนเป็ด ให้สัมผัสที่นุ่มบางเบาเป็นธรรมชาติมากที่สุด เย็นสบายและทนทาน

ท็อปเปอร์ (Topper) เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณนอนหลับสบายตลอดคืน ไม่มีอาการปวดหลังและปวดเมื่อยตามตัว สำหรับการเลือกท็อปเปอร์ให้ตอบโจทย์คุณมากที่สุดนั้น เราขอแนะนำให้คำนึงถึงความต้องการและการใช้งานของคุณมากที่สุด หากตัดสินใจโดยยึดหลักนี้เป็นสำคัญ คุณจะได้ท็อปเปอร์ที่ตอบโจทย์กับคุณอย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังมองหาท็อปเปอร์ (Topper) คุณภาพดี สามารถเลือกใช้บริการ SP Luxury Trading ได้ ที่นี่เราจำหน่ายเฉพาะท็อปเปอร์ (Topper) คุณภาพดีในราคาที่เป็นมิตรต่อคุณลูกค้าทุกท่าน

เคยสงสัยหรือไม่? ทำไมทุกโรงแรมต้องใช้เสื้อคลุมรังผึ้ง รองเท้ารังผึ้ง และทำไมถึงต้องเป็น 6 เหลี่ยม

เชื่อว่าใครหลายคนเมื่อเข้าพักในโรงแรมหรือรีสอร์ทแล้วต้องเคยพบกับเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมไว้ให้กันอย่างแน่นอน แล้วเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า เสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง มีประโยชน์อย่างไรและทำไมจึงต้องเป็นหกเหลี่ยมด้วยละ บทความนี้เราจะมาช่วยไขความจริงให้กระจ่างจนคุณเข้าใจถึงความสำคัญของเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งกันมากขึ้น มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย

เสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งมีประโยชน์อย่างไร?

เสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทุกโรงแรมหรือรีสอร์ททุกแห่งต้องจัดเตรียมไว้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้าพักในโรงแรมมักจะชื่นชอบการใช้บริการนวดและสปา รวมถึงการเล่นน้ำในสระน้ำของโรงแรม ซึ่งเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งจะมีหน้าที่สวมใส่ไว้คลุมชุดด้านในของผู้สวมใส่อีกที ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ลูกค้าไม่จำเป็นต้องแต่งตัวมิดชิดเพื่อลงไปเล่นน้ำในสระ และสามารถเดินออกจากห้องพักเพื่อไปใช้บริการในส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมได้อย่างสบายใจนั่นเอง

นอกจากนั้นไม่เสมอไปว่าจะสวมใส่ในขณะที่ออกไปทำกิจกรรมนอกห้องพักก็ได้ แต่ภายในห้องพักของลูกค้าเอง ลูกค้าก็สามารถสวมใส่เสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งขณะพักผ่อนอาศัยในห้องพักได้เช่นกัน เช่น คุณผู้หญิงพึ่งอาบน้ำเสร็จ ผมยังไม่แห้ง ก็สามารถสวมใส่เสื้อคลุมและรองเท้ารังผึ้งเพื่อเดินมาเป่าผม แต่งหน้าหน้ากระจกได้ หรือคุณผู้ชายจะใส่เสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งนั่งจิบกาแฟดูโทรทัศน์ก็ได้เช่นกัน

ทำไมเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งต้องเป็นหกเหลี่ยม?

ไม่มีรายละเอียดระบุชัดเจนได้ว่าจุดเริ่มต้นของการนำรูปทรงหกเหลี่ยมมาประยุกต์ใช้กับเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งนั้นมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถสังเกตได้คือรูปทรงหกเหลี่ยม หากนำมาต่อกันหลายรูปจะมีลักษณะเหมือนกับรังผึ้งตามธรรมชาติเลย นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสื้อคลุมและรองเท้าลักษณะนี้ถูกเรียกว่า เสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งก็เป็นได้ ที่สำคัญเมื่อนำมาต่อกันและออกแบบเป็นเสื้อคลุมและรองเท้าก็มีความสวยงามมีความเป็นธรรมชาติจริง ๆ

ในแง่ของการใช้ประโยชน์นั้น เมื่อนำรูปทรงหกเหลี่ยมมาใช้กับเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้ง จะทำให้เสื้อคลุมและรองเท้ามีรูระบายอากาศเพิ่มขึ้น ทำให้อากาศภายในค่อย ๆ ระบายออกมาได้ ส่งผลให้เสื้อคลุมและรองเท้าแห้งเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงผู้สวมใส่สามารถปรับอุณหภูมิร่างกายตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

เจ้าของกิจกรรมโรงแรมควรเลือกเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งอย่างไร?

หลักการเลือกเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งจะไม่ต่างจากการเลือกซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ โดยให้คำนึงถึงคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก เสื้อและรองเท้าสามารถซื้อแบบ Free Size ได้ รวมถึงให้คัดเลือกจากคุณภาพของเส้นใยที่นำมาผลิตเสื้อและรองเท้า ลักษณะต้องเป็นแบบรังผึ้งและเนื้อผ้าต้องไม่หนาและบางจนเกินไป แค่นี้คุณก็จะได้เสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งที่ตอบโจทย์กันอย่างแน่นอน

เชื่อว่าใครหลายคนคงมองเห็นถึงความสำคัญของเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งกันมากขึ้นแล้ว หากใครที่กำลังหาเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งเนื้อผ้านุ่ม คุณภาพดี ในราคาที่สมเหตุสมผล คุณสามารถเลือกใช้บริการ SP Luxury Trading กันได้ ที่นี่คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับเสื้อคลุมรังผึ้งและรองเท้ารังผึ้งที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน

เลือกผ้าห่มอย่างไรให้ห่มอุ่น นอนอิ่ม เหมือนพักโรงแรม 5 ดาว

การนอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่มตลอดคืนไม่ได้ขึ้นอยู่กับบรรยากาศเพียงอย่างเดียว แต่เครื่องนอนก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน นอกจากหมอนและที่นอนแล้ว ผ้านวมก็เป็นเครื่องนอนอีกชิ้นหนึ่งที่จะทำให้การนอนหลับเป็นไปอย่างต่อเนื่อง หลับสบายตลอดคืนค่ะ

สำหรับผู้ที่มีโอกาสไปนอนพักค้างคืนในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวขึ้นไปคงต้องเคยสงสัยแน่ ๆ ใช่ไหมคะว่าทำไมผ้าห่มหรือผ้านวมของโรงแรมเหล่านั้นจึงห่มอุ่น ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องนอนโรงแรมอย่าง SP Luxury Trading จะมาเฉลยเทคนิคการเลือกผ้าห่มนวมอย่างไรให้ห่มอุ่น นอนอิ่มเหมือนพักโรงแรม 5 ดาวกันค่ะ

1. เลือกผ้าห่มนวมเนื้อหนา แต่น้ำหนักเบา

ผ้าห่มนวมจะให้สัมผัสที่นุ่มและยืดหยุ่นมากกว่าผ้าห่มธรรมดา เนื่องจากบุด้วยวัสดุต่าง ๆ ไว้ภายใน จึงมีความฟูมากกว่าปกติ ผ้าห่มนวมเป็นผ้าห่มที่นิยมใช้ในโรงแรมและรีสอร์ททั่วไป โดยการใช้ผ้าห่มนวมจะช่วยให้ร่างกายของคุณอบอุ่นตลอดคืน จึงหลับสบาย ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนอนในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศหรือในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นในตอนกลางคืน เพราะผ้าห่มนวมจะช่วยกักเก็บความอบอุ่นและป้องกันความหนาวเย็นจากภายนอก ซึ่งในปัจจุบันก็มีผ้าห่มนวมให้เลือกมากมายทั้งแบบ ใยโพลีเอสเตอร์ ใยขนเป็ดเทียม ขนห่านเทียม เป็นต้น

สำหรับเคล็ดลับในการเลือกผ้าห่มนวมก็คือควรเลือกผ้าห่มนวมที่มีความหนานุ่ม ฟูกำลังดี และไม่ได้มีน้ำหนักมากจนรู้สึกอึดอัดเมื่อใช้ห่มตัว แต่ในรายที่ขี้หนาวก็อาจเลือกผ้าห่มนวมที่มีน้ำหนักมากสักหน่อย ก็จะช่วยให้รู้สึกอบอุ่นมากขึ้นได้ค่ะ และหากคุณต้องการผ้าห่มนวมที่ดูแลรักษาง่าย ไม่ยับ ก็สามารถเลือกวัสดุปลอกนวมที่ทำมาจากผ้าใยสังเคราะห์ แต่ถ้าคุณต้องการเน้นสัมผัสนุ่มสบายเป็นหลัก ผ้านวมที่ทำจากผ้าฝ้ายก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า นอกจากคุณสมบัติป้องกันความหนาวแล้ว ผ้าห่มนวมบางชนิดยังมีคุณสมบัติป้องกันไรฝุ่นได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ อีกทั้งมีหลายลวดลายให้เลือกซื้อเพื่อให้เข้ากับการตกแต่งห้องตามสไตล์ที่ต้องการอีกด้วยค่ะ

2. ไส้ผ้านวม+ปลอกผ้านวม นิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ

ปัจจุบัน โรงแรมและรีสอร์ทหรูใหม่ ๆ จะนิยมใช้ผ้านวมที่เป็นไส้ผ้านวมหุ้มด้วยปลอกผ้านวม ไม่ใช่ผ้านวมสำเร็จรูปแบบที่เราเคยเห็นกันโดยทั่วไปค่ะ โดยไส้ผ้านวมจะเป็นส่วนที่ให้ความอบอุ่น นุ่มสบาย ส่วนปลอกผ้านวมจะโดดเด่นในเรื่องของสัมผัส ทั้งนี้ ไส้ผ้านวมเองก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายทั้งไส้ผ้านวมโพลีเอสเตอร์ ไส้ผ้านวมขนห่านเทียม ไส้นวมขนเป็ดเทียม เป็นต้น ซึ่งก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป สำหรับเทคนิคการเลือกไส้ผ้านวม ให้ดูจากจำนวนเส้นใย (Thread Count) ยิ่งไส้ผ้านวมมีจำนวนเส้นใยที่ใช้ในการทอต่อหนึ่งตารางนิ้วมากเท่าไร ก็แสดงว่าไส้ผ้านวมผืนนั้นจะยิ่งมีสัมผัสนุ่มสบายมากขึ้นค่ะ โดยค่า Thread Count มาตรฐานจะอยู่ที่ 180-300 เส้น แต่หากใครที่อยากได้ไส้ผ้านวมแบบโรงแรมห้าดาว อาจจะต้องลองเลือกไส้ผ้านวมที่มีจำนวน Thread Count ที่สูงกว่า เช่น 500 เส้น ขึ้นไป เป็นต้น

ส่วนปลอกผ้านวมจะใช้สำหรับสวมไส้ผ้านวมอีกชั้นหนึ่ง จะมีช่องใส่ไส้นวมอยู่ด้านปลายเท้า เพื่อไว้ใส่ไส้ผ้านวม ส่วนใหญ่ช่องใส่ไส้นวมที่นิยม มี 2 แบบ คือแบบลิ้น จะทนกว่าแบบซิป นิยมใช้ในโรงแรม รีสอร์ททั่วไป โรงงานของเราจะมีเชือกผูกปิดลิ้นให้เพื่อป้องกันการเห็นไส้นวมโผล่ออกมา และแบบซิป ซึ่งแบบซิปจะใช้งานสะดวกกว่าแต่ต้องปิดซิปซักด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันซิปแตกและเสียเงินค่าซ่อมซิป และแบบซิปจะเข้าเครื่องรีดผ้าสำหรับโรงงานซักรีดลำบากและงานซักล่าช้า ปลอกผ้านวมช่วยเพิ่มความหนานุ่ม มีสีสันและลวดลายที่หลากหลาย โดยจะต้องเลือกขนาดให้พอดีกับขนาดของไส้ผ้านวมและเตียงนอน นอกจากปลอกผ้านวมจะช่วยเพิ่มความหรูหรา อบอุ่น น่านอนแล้ว ยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่าผ้าห่มนวมแบบเย็บติดมาก เพราะสามารถถอดไส้ผ้านวมและปลอกผ้านวมแยกซักกันได้

นอกจากเคล็ดลับในการเลือกผ้าห่มนวม ปลอกผ้านวมและไส้ผ้านวมแล้ว การเลือกใช้สี ไม่ว่าจะเป็นที่นอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวมก็จะช่วยให้รู้สึกสะอาดตาและน่านอนเหมือนพักอยู่ในโรงแรม และอย่าลืมทำความสะอาดและจัดข้าวของให้เป็นระเบียบอยู่เสมอก็จะช่วยให้ห้องของคุณดูน่าอยู่มากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

ผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอน จำเป็นแค่ไหน?

ผ้ารองกันเปื้อนอาจจะเป็นเครื่องนอนที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักมากนัก เนื่องจากไม่ค่อยมีการใช้ในครัวเรือนทั่วไป แต่มักพบเห็นได้ในโรงแรมชั้นนำทั้งในรูปแบบของผ้ารองกันเปื้อนหมอน และผ้ารองกันเปื้อนที่นอน แล้วผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนจะมีประโยชน์อย่างไรและเหมาะสำหรับใครบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนจำเป็นหรือไม่?

คนส่วนใหญ่มักมองว่าผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากเรามักคุ้นเคยกับเครื่องนอนที่ดูไม่ซับซ้อน มีเพียงแค่ที่นอน หมอนหนุน หมอนข้าง และผ้านวมก็เพียงพอ แต่สำหรับชาวตะวันตก ผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนถือเป็นเครื่องนอนที่มีความสำคัญไม่แพ้ชิ้นอื่น ๆ เลยทีเดียวค่ะ

ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ ของผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนก็คือการปกป้องหมอนและที่นอนจากฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ยิ่งในปัจจุบันมีการผลิตผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนแบบกันน้ำ ออกมาทำให้สามารถป้องกันการซึมเปื้อนของของเหลว เช่น น้ำ คราบเหงื่อ ประจำเดือน ฯลฯ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถป้องกันแบคทีเรีย ขนสัตว์ หรือไรฝุ่นที่เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ได้ด้วย จึงทำให้การนอนหลับเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ราบรื่น และมีคุณภาพ ตื่นมากระปรี้กระเปร่า สดชื่น และยังทำให้เครื่องนอนดูใหม่ สะอาดอยู่เสมอและยังช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องนอนให้ยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

ผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนเหมาะสำหรับใคร?

ความเป็นจริงแล้ว ผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนเหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ใช้ต่อไปนี้

  • เด็ก

เด็กเป็นวัยที่ยังสื่อสารและช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ดีนัก จึงอาจมีปัญหาเรื่องปัสสาวะหรืออุจจาระรดที่นอนได้ รวมถึงในรายที่ยังติดขวดนม ก็อาจทำให้ของเหลว เช่น น้ำหรือนมหกเลอะเทอะ เกิดเป็นรอยเปื้อนและคราบสกปรกบนหมอนหรือที่นอนได้การใช้ผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนจึงช่วยป้องกันของเหลวไม่ให้ซึมเข้าสู่ที่นอน และผ้าบางชนิดยังช่วยป้องกันปัญหาไรฝุ่น สาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ได้อีกด้วยค่ะ

  • ผู้หญิงขณะมีประจำเดือน

ปัญหาคราบประจำเดือนเปรอะเปื้อนที่นอนเป็นอีกปัญหาที่พบได้บ่อยครั้ง ทั้งทำให้ที่นอนดูสกปรก เป็นคราบดำ สร้างความรำคาญใจอย่างมาก ครั้นจะใช้ผ้ายางก็อาจจะทำให้นอนไม่สบายตัวเท่าไร แต่สำหรับผ้ารองกันเปื้อนที่นอนแล้ว มักผลิตจากเส้นใยโพลิเอสเตอร์หรือไมโครไฟเบอร์ จึงให้สัมผัสที่ดีกว่า อีกทั้งทำความสะอาดง่ายและแห้งเร็ว ป้องกันปัญหาการเกิดคราบประจำเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ผู้สูงอายุ

ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้สมรรถภาพทางร่างกายของผู้สูงอายุนั้นเสื่อมถอย ลงไปถึงระบบหูรูดต่าง ๆ ผู้สูงอายุจึงมีแนวโน้มที่จะประสบกับภาวะกลั้นปัสสาวะและอุจจาระไม่อยู่เนื่องจากมักไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวและทำให้เกิดเปรอะเปื้อนที่นอนได้ การใช้ผ้ารองกันเปื้อนที่นอนจึงตอบโจทย์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

  • ผู้ป่วยติดเตียง

มักพบปัญหาเช่นเดียวกันกับผู้สูงอายุนั่นก็คือภาวะกลั้นปัสสาวะและอุจจาระ แม้จะใส่ผ้าอ้อมสำหรับผู้ป่วยติดเตียง แต่ก็อาจเปรอะเปื้อนที่นอนได้ ผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนจึงเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยติดเตียงและผู้ดูแลเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาอับชื้นและแผลกดทับได้เนื่องจากสามารถระบายอากาศได้ดี

  • คุณแม่หลังคลอด

คุณแม่หลังคลอดจะต้องประสบภาวะเลือดไหลหลังคลอดไม่ว่าจะคลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าคลอดซึ่งเป็นกระบวนการกำจัดน้ำเมือก เนื้อรก และมูกเลือดที่ตกค้างของร่างกาย โดยจะไหลออกมาคล้ายกับเวลามีประจำเดือนทำให้ต้องใส่ผ้าอนามัยอยู่ตลอดเวลา การใช้ผ้ารองกันเปื้อนที่นอนจึงช่วยป้องกันไม่ให้น้ำเมือก น้ำคาวปลา หรือเลือดซึมผ่านลงสู่ที่นอน ช่วยให้ที่นอนดูสะอาดและหมดกังวลเรื่องปัญหาการกำจัดคราบ

จะเห็นได้ว่าผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนนั้นมีประโยชน์หลายประการด้วยกัน สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งด้านสุขภาพ สุขอนามัยที่ดี และทำให้เครื่องนอนดูสะอาด ใหม่อยู่ตลอดเวลา

 SP Luxury Trading ผู้นำด้านบริการรับผลิตและจำหน่ายปลีก-ส่ง ชุดเครื่องนอนคุณภาพขอนำเสนอนวัตกรรมผ้ารองกันเปื้อนหมอนและผ้ารองกันเปื้อนที่นอนที่มีให้เลือกหลายหลายรูปแบบทั้งผ้ารองกันเปื้อนแบบมาตรฐาน ผ้ารองกันเปื้อนแบบรัดมุม และผ้ารองกันเปื้อนแบบกันน้ำ ใช้ได้กับหมอนและที่นอนทุกขนาด พร้อมบริการสั่งตัดผ้ารองกันเปื้อนขนาดพิเศษ

ความลับที่คุณอาจจะไม่รู้! ทำไมหมอนโรงแรมต้องมี 4 ใบ ช่วยให้นอนหลับสบายจริงหรือ?

เชื่อว่าใครหลายคนคงสงสัยกันไม่มากก็น้อย เมื่อคุณเดินทางเข้าพักโรงแรมแล้ว คุณจะสังเกตได้ว่าภายในห้องพักจะมีหมอนโรงแรมวางไว้บนเตียงให้มากถึง 4 ใบ ยิ่งในบางโรงแรมอาจมีหลากหลายขนาด และมีจำนวนมากกว่านั้นอีก โรงแรมจัดหมอนโรงแรมให้มากขนาดนั้นเพื่ออะไร ทั้ง ๆ ที่เราใช้นอนหนุนศีรษะเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น บทความนี้เราจะไขข้อกระจ่างให้คุณได้รับทราบ และเข้าใจถึงความสำคัญของหมอนโรงแรมทั้ง 4 ใบกัน

แท้จริงแล้ว ที่ทางโรงแรงได้จัดหมอนโรงแรมให้แต่ละห้องมีจำนวนมากถึง 4 ใบ เนื่องจากท่านอนที่ถูกต้องนั้น แต่ละท่านควรนอนหนุนหมอนถึง 2 ใบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับท่านอนที่ถนัดของแต่ละคนด้วย ยิ่งคุณนอนหนุนหมอนโรงแรมอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือด ระบบการหายใจ และระบบการจัดระเบียบร่างกายของกระดูกแต่ละส่วนเป็นไปอย่างถูกต้อง ลดอาการปวดเมื่อยระหว่างนอนได้จริง ส่งเสริมให้คุณนอนหลับสบายยิ่งขึ้นกว่าก่อนนอนหนุนหมอนโรงแรมเพียงแค่ใบเดียว

วิธีการใช้หมอนโรงแรมทั้ง 4 ใบอย่างถูกต้อง ช่วยให้นอนหลับสบายตลอดคืน

การใช้หมอนโรงแรมในการนอนอย่างถูกต้องนั้น คุณจะต้องคำนึงถึงลักษณะท่าทางในการนอนของแต่ละคนด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ท่านอนของที่คนเรานิยมนอนกันจะแบ่งออกเป็น 3 ท่าหลัก ๆ

1. ท่านอนหงาย

การนอนหงายถือเป็นท่านอนพื้นฐาน และเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง เพราะเป็นท่านอนที่จะทำให้กระดูกสันหลังของผู้นอนจัดเรียงตัวกันดี ไม่คดงอ โค้งบิดเบี้ยว ซึ่งการใช้หมอนโรงแรมให้เหมาะสมสำหรับท่านอนหงายนั้น ควรจะต้องเป็นหมอนโรงแรมที่มีความหนาปานกลาง ไม่สูงเกินไป นอนหนุนศีรษะจนถึงคอ เพื่อที่ผู้นอนจะได้ไม่มีอาการปวดคอ อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลกระดูกตั้งแต่บริเวณคอจนถึงกระดูกสันหลังให้มีความสมดุลเรียงตัวกันดีมากยิ่งขึ้น

2. ท่านอนตะแคง

หากคุณชื่นชอบการนอนตะแคง เราก็ขอแนะนำให้คุณนอนตะแคงด้านขวาจะดีกว่า และให้นอนหนุนหมอนโรงแรมหนึ่งใบ โดยให้หมอนรองรับศีรษะจนถึงส่วนคอพอดี อย่าให้ไหล่หนุนหมอนด้วย เพื่อที่ผู้นอนจะได้ไม่มีอาการปวดคอ อีกทั้งกระดูกสันหลังจะไม่ได้ต้องทำงานหนัก อีกทั้งการนอนตะแคงด้านขวาจะทำให้คุณไม่นอนกดทับหัวใจด้านซ้าย ทำให้หายใจไม่สะดวกระหว่างนอน ส่วนหมอนโรงแรมอีกหนึ่งใบมานอนกอดไว้ โดยให้เข่าทั้งสองข้างนอนกอดไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อที่การไหลเวียนของเลือดภายในร่างกายลื่นไหลสะดวกมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ผู้นอนนอนหลับสบายตลอดคืน หากคุณไม่นำหมอนมาให้เข่าทั้งสองใบกอดไว้ เข่าทั้งสองข้างจะปะทะกัน ซึ่งถือเป็นท่าที่ไม่ดี เพราะจะทำให้ปวดหลังได้ง่าย อีกทั้งกระดูกสันหลังอาจบิดเบี้ยวจากท่านอนที่ไม่เหมาะสมได้

3. ท่านอนคว่ำ

แท้จริงแล้ว ท่านอนคว่ำเป็นท่านอนที่เราไม่ค่อยอยากแนะนำให้คุณนอนหลับท่านี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากการนอนคว่ำจะทำให้กระดูกต้นคอบิดเบี้ยว และกระดูกสันหลังบริเวณเอวโค้งไปด้านหน้าจนเกินไป แต่เราก็มีเคล็ดลับการใช้หมอนโรงแรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้มาช่วยให้คุณนอนหลับสบายยิ่งขึ้น และไม่เสียสุขภาพแม้จะนอนคว่ำก็ตาม ซึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ก็คือให้นอนคว่ำหนุนหมอนบริเวณศีรษะและลำคอหนึ่งใบ ส่วนหมอนโรงแรมอีกหนึ่งใบให้นำมาวางไว้บริเวณใต้ท้อง ใต้กระดูกเชิงกราน เพื่อช่วยลดแรงกดทับบริเวณหลังได้นั่นเอง

เชื่อว่าใครหลายคนคงเข้าใจถึงความสำคัญของหมอนโรงแรม และความลับของหมอน 4 ใบกันแล้ว เราขอแนะนำให้คุณลองศึกษาท่านอนที่ตัวเองชื่นชอบ และลองนำเทคนิคการใช้หมอนโรงแรมเพื่อการนอนหลับอย่างถูกต้องไปปรับใช้กันดู เทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ขณะเข้าพักโรงแรมเพียงอย่างเดียว แต่เราแนะนำให้คุณไปปรับใช้กับการนอนหลับขณะอาศัยอยู่ที่บ้านกันด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีและความสบายในการนอนหลับตลอดคืนของคุณ

5 เคล็ดลับการเลือกผ้าปูโรงแรม เลือกอย่างไรให้ถูกใจผู้เข้าพักอาศัย

1. เลือกขนาดผ้าปูโรงแรมให้เหมาะกับขนาดเตียง

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการโรงแรม และกำลังมองหาผ้าปูที่นอนสำหรับเตียงในห้องพักโรงแรมของคุณ สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงคือขนาดของเตียงนอน เพื่อที่จะได้ซื้อผ้าปูโรงแรมให้เหมาะสมกับขนาดของเตียงได้ ซึ่งผ้าปูโรงแรมจะมีขนาดตามไซซ์ของเตียงด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ขนาด ได้แก่ ผ้าปูโรงแรมขนาดความกว้าง 3.5 ฟุต ที่เหมาะกับขนาดเตียงเดี่ยว (Single) ขนาดความกว้าง 5 ฟุต สำหรับเตียงใหญ่ (Queen) และขนาดความกว้าง 6 ฟุต (King) ส่วนความยาวของทั้ง 3 ขนาดจะเท่ากันที่ 78 นิ้ว

2. เลือกสีผ้าปูโรงแรมให้เข้ากับโทนสีของห้องพัก

ส่วนใหญ่แล้วผ้าปูโรงแรมจะมีสีขาว เนื่องจากเป็นสีที่ดูสะอาดสะอ้านสบายตา สีขาวเข้ากับโทนสีห้องนอนโรงแรมทุกสี จึงจัดเป็นสีพื้นฐานที่ใครหลายคนชื่นชอบจนมีนักวิชาการหลายท่านก็ได้ทำการวิจัยและยืนยันว่า ผ้าปูโรงแรมสีขาวสามารถช่วยให้ผู้เข้าพักอาศัยนอนหลับสบายกว่าเดิม รู้สึกสบายใจที่จะนอนมากกว่าการนอนหลับพักผ่อนที่บ้านเสียอีก แต่ก็ไม่เสมอไปเช่นกัน หากคุณเป็นเจ้าของโรงแรม และต้องการแต่งห้องพักอาศัยของคุณให้ดูโดดเด่น และมีเอกลักษณ์แตกต่างจากห้องพักของโรงแรมอื่น ๆ การเปลี่ยนโทนสีของผ้าปูโรงแรมก็นับเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยละ

3. เลือกเนื้อผ้าของผ้าปูโรงแรมให้ถูกใจ

เนื้อผ้าปูโรงแรมถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกผ้าปูโรงแรมที่จะช่วยให้ผู้นอนรู้สึกนอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น โดยเนื้อผ้าปูโรงแรมมีหลากหลายชนิดด้วยกัน ตั้งแต่ผ้าใยธรรมชาติ 100% ผ้าคอตตอนผสม ตลอดจนผ้าใยสังเคราะห์ ผ้าคอตตอน ก็คือผ้าฝ้ายที่มีใยธรรมชาติ 100% โดยเฉพาะสำหรับห้องพักโรงแรมราคาแพง เนื่องจากมีเนื้อผ้านุ่มเบาสบาย ระบายอากาศและเหงื่อได้ดี ใครได้ทดลองนอนก็ต้องชอบ

ผ้าใยสังเคราะห์ เนื้อผ้าผสมระหว่างใยธรรมชาติ และใยสังเคราะห์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม ได้แก่ ผ้า CVC ที่มีส่วนผสมระหว่างผ้าคอตตอนและผ้าโพลีเอสเตอร์ในสัดส่วน 50 :50 ด้วยกัน เนื้อผ้าสัมผัสนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ทนทานและซักรีดง่าย มีราคาปานกลางจึงเหมาะสำหรับห้องพักโรงแรมที่มีราคากลาง ๆ และผ้า TC สี เป็นผ้าปูโรงแรมผสมระหว่างคอตตอน 35% และโพลีเอสเตอร์ 65% นับเป็นผ้าที่มีราคาถูกมาก เนื้อผ้าไม่ลื่น ไม่ต้องรีด เหมาะสำหรับห้องพักราคาถูก

4. เลือกผ้าปูโรงแรมที่บำรุงรักษาง่าย

นอกจากเจ้าของโรงแรมจะต้องคำนึงถึงต้นทุนในการจัดซื้อผ้าปูโรงแรมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ ต้นทุนและความยากลำบากในการบำรุงรักษาและทำความสะอาดผ้าปูโรงแรม โดยผ้าปูโรงแรมที่มีเนื้อผ้าแตกต่างกัน ความยากลำบากและความทนทานในการใช้งานก็จะมีความแตกต่างกันเช่นกัน โดยเฉพาะผ้าปูโรงแรมที่ทอแบบขึ้นเงา หรือก็คือแบบซาติน จะทำความสะอาดค่อนข้างยาก เนื่องจากน้ำยาทำความสะอาด การขัดและการถูผ้าปู หากทำได้ไม่ดี โอกาสที่คุณภาพการใช้งานจะยิ่งลดง่ายกว่าผ้าปูโรงแรมชนิดอื่น ๆ

5. เลือกผ้าปูโรงแรมที่มีจำนวนด้ายตรงตามมาตรฐาน

คุณควรเลือกซื้อผ้าปูโรงแรมที่มีความหนาแน่นของเส้นด้ายตรงตามมาตรฐาน ซึ่งก็คือ จำนวนเส้นด้ายแนวนอนและจำนวนเส้นด้ายแนวตั้งในพื้นที่ 1 ตารางนิ้ว มีอัตราส่วนเท่ากัน โดยส่วนใหญ่แล้วผ้าปูโรงแรมจะมีเส้นด้ายประมาณ 180 – 500 เส้นยิ่งมีจำนวนเส้นด้ายมาก ๆ ผ้าก็จะยิ่งมีความนุ่มสบายมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นด้ายด้วย หากทอขึ้นมาจากด้ายที่มีคุณภาพ นุ่มสบาย ยิ่งมีจำนวนด้ายมากผ้าก็จะยิ่งนุ่ม แต่หากใยด้ายไม่ดี ต่อให้จำนวนด้ายเยอะผ้าก็ไม่ได้นุ่มตามและถ้าเจอผ้าคุณภาพไม่ดีอาจจะขึ้นเม็ดขึ้นขนในการซักเพียง 3-4 ครั้ง ซึ่งทำให้เปลืองเงินในการเปลี่ยนผ้าปูโรงแรมบ่อยๆ เหมือนต้องซื้อของถึงสองรอบ ดังนั้นต้องเลือกซื้อจากโรงงานที่ไว้ใจได้ อย่าเน้นของราคาถูกจนเกินไป เพราะระยะยาวจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

และนี่ก็คือ 5 เคล็ดลับการเลือกผ้าปูโรงแรมให้ถูกใจผู้เข้าพักอาศัย ใครที่กำลังมองหาซื้อผ้าปูโรงแรม อย่าลืมลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กันดู รับรองจะได้ผ้าที่ถูกใจทั้งคนซื้อและผู้เข้าพักอย่างแน่นอน

Scroll to Top