บทความ

หมอนขนห่านเทียมดีอย่างไร

          หากคุณเป็นคนที่มีโอกาสได้ไปใช้บริการในโรงแรมหรูอยู่บ่อย ๆ แล้วล่ะก็ คงจะต้องสังเกตเห็นได้แน่ ๆ ว่า จะมีหมอนอยู่ประเภทหนึ่งที่โรงแรมหรูทั้งหลายนั้นนิยมเลือกใช้กัน ซึ่งหมอนที่ว่านั้นก็คือ “หมอนขนห่านเทียม” นั่นเอง แล้วสาเหตุที่โรงแรมหรูทั้งหลายเลือกใช้หมอนขนห่านเทียมคืออะไรนั้น เราก็มีคำตอบมาให้ทุกคนกันเช่นเคย เพราะในวันนี้ เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเจ้าหมอนชนิดนี้กัน ว่าหมอนชนิดนี้ดีอย่างไร แตกต่างจากหมอนชนิดอื่นตรงไหนและมีประโยชน์อะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปดูกันเลย

หมอนขนห่านเทียมคืออะไร ?

          หมอนขนห่านเทียมมีอีกชื่อว่า “หมอนขนเป็ดเทียม” หรือ “หมอนไมโครเจล” ซึ่งหมายถึงหมอนที่ทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์อย่างเส้นใยไมโครไฟเบอร์หรือไมโครเจล โดยเป็นหมอนที่ถูกผลิตขึ้นมาให้ตอบโจทย์ความต้องการสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสัมผัสอันหรูหราและนุ่มสบายของหมอนขนเป็ดแท้ แต่อาจไม่ชอบกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของขนป็ด รวมถึงบางคนอาจมีอาการแพ้ขนสัตว์ จึงไม่สามารถใช้หมอนจากขนสตว์แท้ได้ นอกจากนี้ หมอนขนห่านเทียมยังเป็นหมอนที่ดีต่อสุขภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหมอนใยสังเคราะห์ชนิดอื่น แถมยังมีราคาที่ถูกกว่าหมอนขนเป็ดแท้อีกด้วย จึงทำให้หมอนชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้กันตามบ้านและโรงแรมที่หรูระดับ 4 – 5 ดาวนั่นเอง

ประโยชน์และข้อดีของหมอนขนห่านเทียม

1.นุ่มสบายคล้ายหมอนขนเป็ดแท้
2.ให้สัมผัสที่หรูหรา
3.ช่วยให้นอนหลับสบายกว่าหมอนทั่วไป
4.ไม่มีกลิ่นอับเหมือนขนเป็ดแท้
5.เป็นหมอนสุขภาพ เพราะไม่มีสารก่อให้เกิดอาการแพ้
6.ช่วยลดการสะสมของฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองในหมู่ผู้เป็นภูมิแพ้
7.ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระจึงไม่ก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยเมื่อใช้นอนเป็นเวลานาน ๆ
8.ดูแล รักษา และทำความสะอาดได้ง่าย
9.สามารถทำไปซักล้างได้โดยที่เส้นใยไม่จับกันเป็นก้อน
10.สามารถซักในเครื่องซักผ้าได้ แต่ต้องระวังเรื่องการใช้ความร้อนในการซักหรืออบผ้า เพราะอาจทำให้ไส้หมอนเสียได้
11.มีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนตัวได้ดี
12.มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ใช้ไปนาน ๆ แล้วหมอนไม่แบน
13.มีน้ำหนักเบา
14.มีราคาถูกกว่าหมอนขนเป็ดแท้

หมอนขนห่านเทียมแตกต่างจากหมอนชนิดอื่นอย่างไร ?

          ถ้าเราดูที่ประโยชน์และข้อดีของหมอนขนห่านเทียมแล้วนั้นจะได้ข้อสรุปว่า แม้หมอนขนห่านเทียมจะเป็นหมอนที่สร้างขึ้นมาจากเส้นใยสังเคราะห์อย่างไมโครเจล แต่ก็ยังสามารถตอบโจทย์เรื่องของความหรูหราและสัมผัสที่นุ่มสบายได้แทบไม่ต่างจากหมอนขนเป็ดแท้ ส่วนในแง่ของการดูแลรักษาความสะอาดก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงนำไปซักล้างทำความสะอาดด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า โดยที่คุณไม่ต้องกังวลเลยว่า เส้นใยจะจับตัวกันเป็นก้อน เหมือนกับเส้นใยสังเคราะห์แบบอื่น ๆ ที่เมื่อนำไปซักแล้ว เส้นใยอาจเกิดการจับตัวกันเป็นก้อนได้

นอกจากนี้ ในแง่ของอายุการใช้งาน หมอนขนห่านเทียมก็มีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลายปี ตัวหมอนมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อใช้ไปนาน ๆ หมอนไมโครเจลก็ยังคงรักษารูปทรงไว้ได้ตลอด หมอนจึงไม่แบนง่ายเหมือนหมอนใยสังเคราะห์อื่น ๆ และที่สำคัญ ยังเป็นหมอนที่ดีต่อสุขภาพเพราะสามารถรองรับสรีระการนอนได้เป็นอย่างดีจึงไม่ก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยระหว่างนอนหลับ ตัวหมอนปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้และยังป้องกันไรฝุ่นได้อีกด้วย

  
         
สำหรับธุรกิจโรงแรมแล้วความพึงพอใจในการนอนของลูกค้าคือเรื่องที่สำคัญ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อการนอนหลับอย่างหมอนนั้น จึงเป็นสิ่งที่ทางโรงแรมไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด และจากที่กล่าวไปข้างต้นจะเห็นได้ว่า หมอนขนห่านเทียม  ขนเป็ดเทียม หรือไมโครเจลนั้น มีประโยชน์และข้อดีมากมาย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งความหรูหราและการใช้งาน แถมยังประหยัดกว่าหมอนขนเป็ดแท้อีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมทางโรงแรมถึงมองว่าหมอนชนิดนี้คุ้มที่จะลงทุนด้วย ส่วนใครที่อยากได้หมอนดี ๆ เหมือนมีหมอนที่โรงแรมใช้กันหมอนขนห่านเทียมนั้นก็เป็นตัวเลือกที่จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน

ท็อปเปอร์คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร

เวลาที่เราไปใช้บริการโรงแรมแล้วกลับมานอนที่บ้านนั้น หลายคนคงจะต้องมีคิดกันบ้างสักครั้งล่ะว่า อยากจะให้ที่นอนของบ้านเรานุ่มนิ่มเหมือนกับที่นอนของโรงแรมบ้าง แต่จะให้ไปซื้อที่นอนใหม่สุดหรูแบบโรงแรมเลยก็คงจะไม่ไหวเพราะราคาก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วจะต้องทำอย่างไรดีให้ที่นอนของเราถึงจะนุ่มขึ้นได้ สำหรับใครที่กำลังประสบกับปัญหานี้ เราก็มีผลิตภัณฑ์ดี ๆ มาแนะนำให้กับคุณนั่นก็คือ ท็อปเปอร์ นั่นเอง

สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินคำ ๆ นี้มาก่อนอาจสงสัยว่า เจ้าท็อปเปอร์คืออะไร แต่ถ้าบอกว่าท็อปเปอร์ คือ เบาะรองนอนหรือแผ่นรองที่นอนก็คงจะคุ้นหูจนต้องร้องอ๋อกันบ้างแน่ ๆ ซึ่งถ้าจะสรุปแบบรวบรัดแล้วท็อปเปอร์ก็คือ ที่นอนรูปแบบหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อนำมาปูบนที่นอนเพื่อเพิ่มความนุ่มสบายในการพักผ่อน แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของที่นอนได้อีกด้วย

ประโยชน์ของท็อปเปอร์คืออะไร ?

ประโยชน์และข้อดีของท็อปเปอร์นั้นมีอยู่มากมาย ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ แบ่งได้ดังนี้

1.เพิ่มความนุ่มให้กับที่นอน

บอกลาการนอนบนเตียงแข็ง ๆ ของคุณไปได้เลย เพียงแค่นำท็อปเปอร์ที่เน้นเรื่องความนุ่มสบายมาปูบนที่นอนของคุณ ก็จะช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างเพลิดเพลินมากขึ้น

2.ลดอาการปวดเมื่อย

สำหรับใครที่มีอาการปวดเมื่อยตัวขณะนอนหลับ ท็อปเปอร์ก็เป็นอีกคำตอบที่คุณมองหาเพราะว่า ท็อปเปอร์นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับสรีระการนอนของเรา

3.เพิ่มความสูงให้กับที่นอน

ถ้าคุณรู้สึกว่าความสูงของที่นอนของคุณน้อยเกินไปและอยากให้ที่นอนของคุณสูงขึ้นอีกสักหน่อย โดยไม่ต้องลำบากไปหาเตียงใหม่แล้วล่ะก็ ท็อปเปอร์นี่ล่ะคือสิ่งที่คุณกำลังตามหา

4.ยืดอายุการใช้งานให้กับที่นอน

แน่นอนว่า เมื่อใช้งานที่นอนไปนาน ๆ ก็อาจทำให้ที่นอนเสื่อมสภาพลงได้ ซึ่งการนำท็อปเปอร์มาวางบนที่นอนก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานที่นอนของคุณได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการยุบตัวของที่นอนหรือการป้องกันสิ่งปกปรกต่าง ๆ ไม่ให้ตกลงมาสัมผัสกับที่นอนของคุณ ท็อปเปอร์ก็เอาอยู่


5.ป้องกันสิ่งสกปรกบนที่นอน

หมดห่วงเรื่องคราบสกปรกฝังลึกลงบนที่นอนของคุณไปได้เลย เพราะการที่คุณปูท็อปเปอร์ไว้บนที่นอนของคุณนั้นนอกจากจะช่วยให้คุณนอนได้นุ่มสบายขึ้นแล้ว ท็อปเปอร์ยังเป็นสิ่งแรกที่ปกป้องคราบสกปรกต่าง ๆ ที่อาจไปเปื้อนที่นอนของคุณได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคราบเหงื่อ คราบอาหาร หรือแม้แต่คราบฝุ่นก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้ที่นอนของคุณดูสะอาดอยู่เสมอ

6.ทำความสะอาดได้ง่าย
ถ้าคุณเคยประสบปัญหาทำความสะอาดที่นอนได้ยากลำบากแล้วล่ะก็ ท็อปเปอร์จะช่วยให้คุณลืมปัญหาเหล่านั้นไปได้ทันที เพราะท็อปเปอร์นั้นถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักที่เบา สามารถพับเก็บและเคลื่อนย้ายได้ง่าย จึงสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก จึงง่ายต่อการนำไปทำความสะอาดนั่นเอง


7.ใช้เป็นที่นอนสำรองได้
เวลามีแขกหรือญาติมาเยี่ยมและต้องอยู่ค้างที่บ้านของเรา อาจมีบ้างที่ต้องประสบกับปัญหาที่นอนไม่เพียงพอ แต่ถ้าคุณมีท็อปเปอร์แล้วล่ะก็ ปัญหานี้ก็จะหมดไป เพียงแค่นำท็อปเปอร์มาปูลงบนพื้นก็สามารถกลายเป็นที่นอนนุ่มสบายให้กับบรรดาแขกได้ในทันที


8.ราคาถูกกว่าที่นอน
ถ้ามองกันที่คุณสมบัติในการนอนแล้ว ท็อปเปอร์นั้นใกล้เคียงกับที่นอนมาก แต่ถ้าเรื่องของราคานี่บอกได้เลยว่า คนละเรื่องกันเลย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณกำลังมองหาที่นอนดี ๆ แต่มีงบไม่พอก็ลองเลือกท็อปเปอร์มาใช้แทนก็ได้

          จะเห็นได้ว่า ท็อปเปอร์นั้นนอกจากจะช่วยให้ที่นอนของคุณนุ่มสบายเหมือนที่นอนของโรงแรมแล้วยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วยนั่นก็คือ คุณไม่ควรใช้เป็นที่นอนหลักแทนที่นอนปกติในระยะยาว เพราะท็อปเปอร์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้เป็นที่นอนหลัก แต่เป็นที่นอนเสริมที่เอาไว้ปูบนที่นอนนั่นเอง ดังนั้น อย่าลืมเลือกใช้งานท็อปเปอร์ให้ถูกต้องตามสถานการณ์และวัตถุประสงค์ด้วยนะคะ

วิธีซักทำความสะอาดปลอกหมอนและปลอกผ้านวมให้ดูดีอยู่เสมอ

ความสะอาดของที่นอนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และไม่จำเป็นต้องเฉพาะในธุรกิจโรมแรมเท่านั้น แม้แต่ในบ้านของเราเองการรักษาความสะอาดของเครื่องนอนก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเราใช้เวลาอยู่กับที่นอนในแต่ละวันไปถึง 1 ใน 3 ของวัน เพราะฉะนั้นถ้าที่นอนของเราไม่สะอาด ก็อาจเป็นแหล่งของเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อสุขอนามัยของเราได้ ดังนั้นหัวข้อของเราในวันนี้จึงเกี่ยวกับการทำความสะอาดเครื่องนอนนั่นเอง

อย่างไรก็ดีในเครื่องนอนนั้นประกอบไปด้วยองค์ประกอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่นอน หมอน ผ้าห่ม ซึ่งถ้าจะให้พูดทีเดียวทั้งหมดคงไม่ไหว เพราะฉะนั้นเราจึงจะขอพูดถึงเป็นอย่าง ๆ ไป และในวันนี้หัวข้อของเราก็คือ “วิธีซักทำความสะอาดปลอกหมอน และปลอกผ้านวมให้ดูดีอยู่เสมอ” ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูด้วยกันเลย

วิธีที่ 1
1.ซักผ้าด้วยน้ำเย็นผสมผงซักฟอกแล้วล้างน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง
2.นำไปตากแดดจนแห้ง
3.รีดผ้าด้วยเตารีด การรีดจะช่วยให้เส้นใยนุ่มขึ้นและช่วยฆ่าไรฝุ่นได้ เมื่อเสร็จแล้วให้สะบัดเพื่อให้ซากไรฝุ่นหลุดออกไป

วิธีที่ 2
1.ต้มน้ำที่อุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าไรฝุ่น
2.นำปลอกหมอนและปลอกผ้านวมลงกะละมังที่ทนความร้อนได้ แล้วเทน้ำที่ต้มไว้ลงไป
3.แช่ทิ้งไว้จนน้ำเย็นแล้วเททิ้ง เพื่อชะล้างตัวไรฝุ่น และเศษโปรตีนต่าง ๆ
4.ซักต่อด้วยน้ำเย็นผสมผงซักฟอก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง
5.นำไปตากแดดจนแห้งสนิท
6.รีดผ้าให้เรียบด้วยเตารีด

วิธีที่ 3
1.ตั้งระบบเครื่องซักผ้าเป็นซักด้วยน้ำร้อน2.รอจนน้ำเต็มถังแล้วจึงใส่น้ำยาซักผ้าที่อ่อนที่สุดลงไปตามปริมาณที่ฉลากกำหนด
3.รอให้เครื่องปั่นจนน้ำยาซักผ้าละลายจึงนำปลอกหมอน หรือปลอกผ้านวมลงไป
4.ถ้าต้องการให้เครื่องนอนขาวยิ่งขึ้น จะเติมน้ำยาฟอกขาวลงไปก็ได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเหมาะกับชนิดของเครื่องนอนหรือไม่
5.เมื่อซักเสร็จแล้วก็นำไปตากแดดจนแห้ง

วิธีที่ 4
1.แยกปลอกหมอน และปลอกผ้านวมออกมาจากการซักผ้าทั่วไป
2.ถ้ามีคราบสกปรกบนปลอกหมอน หรือปลอกผ้านวม ให้กำจัดคราบเหล่านั้นก่อนนำไปซัก
3.ม้วนผ้าให้มีขนาดเล็กลงเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ภายในเครื่องซักผ้า ซึ่งจะช่วยให้ผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้าเข้าถึงเนื้อผ้าได้ทั่วถึงมากขึ้น
4.เลือกใช้น้ำที่มีอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส เพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่น
5.ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปเพื่อถนอมเนื้อผ้า และเมื่อซักเสร็จแล้วให้สะบัดผ้าเพื่อให้คราบเชื้อโรคหลุดออกไป และยังไม่ทำให้ปลอกผ้านวมจับตัวกันเป็นก้อน
6.นำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค และยังช่วยให้ผ้านุ่มขึ้นอีกด้วย

          และนี่ก็คือวิธีซักทำความสะอาดปลอกหมอน และปลอกผ้านวมที่เรามั่นใจว่าสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แถมยังได้ประสิทธิภาพอีกด้วย โดยเฉพาะผ้า Cotton 100% แนะนำว่า ควรรีดด้วยนะคะเพราะ จะทำให้เส้นใยนิ่มขึ้นและผ้าเรียบกริบ น่าใช้น่านอนมาก ฉะนั้นใครที่กำลังมีปัญหาในการทำความสะอาดเครื่องนอนก็ลองนำวิธีที่เราแนะนำไปลองใช้กันได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

เทคนิคการซักผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าขนหนู ให้ดูราวกับโรงแรมชั้นนำ

            เวลาที่เราเดินทางไปพักตามสถานที่อย่างโรงแรมต่าง ๆ สิ่งที่เรามักจะคุ้นชินสายตาอยู่เสมอก็คือ “ที่นอนของโรงแรม” สีขาวสะอาดชวนให้รู้สึกอยากนอน ซึ่งบนที่นอนของโรงแรมก็จะประกอบด้วยผ้าปูที่นอนโรงแรม, ผ้าขนหนูโรงแรม และหมอนโรงแรม ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างมักจะดูขาวสะอาดและฟูนุ่มน่าใช้งานอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะมีคนมาใช้บริการเยอะแค่ไหนหรือโรงแรมนี้จะตั้งอยู่มานานเพียงใด แต่ที่นอนโรงแรมก็จะยังดูสะอาด ดูใหม่ และดูน่าใช้งานอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง

            แล้วถ้าหากเราต้องการให้ผ้าปูที่นอน ผ้าขนหนู และหมอนของเราดูน่าใช้งานแบบผ้าปูโรงแรม ผ้าขนหนูโรงแรมและหมอนโรงแรมบ้างล่ะ ? เราจะมีวิธีทำความสะอาดหรือจัดการกับสิ่งของเหล่านั้นอย่างไรดี ? ถ้าหากคุณสงสัยล่ะก็ วันนี้เรามีคำตอบมาให้กับคุณแล้ว ไปติดตามเนื้อหากันเลยดีกว่า !

  1. วิธีการทำความสะอาดผ้าปูที่นอน

ที่จริงแล้ววิธีการทำความสะอาดผ้าปูที่นอนให้ดูใหม่แบบของโรงแรมไม่ได้มีเทคนิคอะไรมากมาย นอกจากการใช้น้ำยาฟอกขาวชนิดเข้มข้นพิเศษ ที่ช่วยซอกซอนทุกคราบสกปรกฝังแน่นบนผ้าปู จนได้ออกมาเป็นผ้าปูโรงแรมสีขาวสะอาดพร้อมใช้งานอีกครั้ง แต่ถ้าหากใครที่กลัวว่าจะแพ้สารเคมีหรือไม่ได้มีผ้าปูที่นอนสีขาวล้วนแบบผ้าปูโรงแรม สามารถใช้เทคนิคที่อ่อนโยนกว่าการใช้น้ำยาฟอกขาวได้ โดยการนำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูไปผสมกับผงซักฟอก แล้วแช่ผ้าปูที่นอนทิ้งไว้อย่างต่ำ 3 ชั่วโมง แม้ว่าประสิทธิภาพอาจไม่ดีเท่ากับวิธีแรก แต่ก็ปลอดภัยหายห่วงและไม่เสี่ยงต่อการระคายเคืองอย่างแน่นอน

  • วิธีการทำความสะอาดผ้าขนหนู

ผ้าขนหนูหากใช้ไปนาน ๆ จะเริ่มมีกลิ่นอับ ไม่นุ่มฟูเหมือนเดิมหรืออาจไม่ซึบซับน้ำได้ดีเท่ากับแต่ก่อนอีกด้วย เทคนิคของการซักผ้าขนหนูให้ออกมาดูดีแบบโรงแรมซึ่งดูนุ่มฟูน่าใช้งานอยู่เสมอ จะต้องทำการซักผ้าขนหนูด้วยน้ำร้อน ผงซักฟอก และส่วนผสมสำคัญนั่นก็คือน้ำส้มสายชู ซึ่งช่วยให้ผ้าขนหนูซึบซับน้ำได้ดีและนิ่มเหมือนใหม่ ห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็ดขาด แต่ถ้าหากกังวลเรื่องกลิ่นอับ สามารถใช้สารส้มแกว่งในก่อนการซักราว ๆ 10 – 15 นาทีเพื่อลดกลิ่นอับของผ้าขนหนูก็ได้ เพียงเท่านี้ ผ้าขนหนูของคุณก็จะดูราวกับผ้าขนหนูโรงแรมแล้ว

  • วิธีการทำความสะอาดหมอน

เวลาเราซักหมอน สิ่งแรกที่เราทำก็คือการนำปลอกหมอนออกมาซักก่อนเป็นอันดับแรก จนหลายคนคิดว่าไม่ต้องซักตัวหมอนจริงก็ได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผิด เพราะแม้ว่าเราจะมีปลอกหมอนคอยป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าถึงตัวหมอนจริงอยู่ แต่ถ้าหากเราไม่ทำความสะอาดหมอนเลยหมอนของเราก็จะกลายเป็นที่สะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียมากมาย วิธีการซักหมอนที่จะช่วยให้หมอนของคุณสะอาดน่าใช้งานเหมือนกับหมอนโรงแรมนั้นไม่ยากเลย เพียงแค่นำหมอนที่จะซักมาแช่ในน้ำร้อนแล้วผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาเข้าไป แล้วแช่ทิ้งไว้จนกว่าจะแน่ใจว่าคราบจะหลุดออกจนหมด แล้วค่อยนำไปใส่ในเครื่องซักผ้าเพื่อซักด้วยผงซักฟอกและน้ำร้อนอีกที เวลาวางตากอย่าลืมวางหมอนแนวนอนด้วยนะคะ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้หมอนที่ปลอดเชื้อโรคและแบคทีเรีย น่าใช้งานเหมือนใหม่ราวกับหมอนโรงแรมแล้วล่ะ

แต่ข้อควรระวังในการซักหมอนก็คือหมอนนั้นมีหลายประเภท บางแบบอาจซักได้หรือซักไม่ได้ บางแบบอาจเหมาะกับการซักมือมากกว่าซักเครื่อง หรืออาจจะมีน้ำยาและสารเคมีบางอย่างที่ไม่สามารถใช้ได้ในการซัก อย่าลืมศึกษาข้อมูลตรงนี้ให้แน่ใจก่อนก็พอค่ะ

วิธีเลือกปลอกหมอนและผ้ารองกันเปื้อนหมอนสำหรับโรงแรม

สำหรับธุรกิจโรงแรม สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจเป็นอย่างมากเลยก็คือเรื่องชุดเครื่องนอน ที่ใช้บริการลูกค้า ซึ่งนอกจากเตียงและผ้าห่มแล้ว ก็ยังมีในส่วนของตัวหมอนที่ขาดไปไม่ได้เลย เพราะว่าหมอนเป็นสิ่งที่เอาไว้รองรับศีรษะของเราตลอดเวลาที่นอนทั้งคืน ดังนั้น ถ้าหมอนไม่ดีก็มีสิทธิทำให้เรานอนไม่สบายได้ แต่ทว่าในวันนี้ เราไม่ได้มาพูดถึงวัสดุของตัวหมอนกัน เพราะหัวข้อของเรานั้นก็คือวิธีเลือกปลอกหมอนและผ้ารองกันเปื้อนหมอนนั่นเอง

แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีเลือกปลอกหมอนและผ้ารองกันเปื้อนหมอนว่าเลือกอย่างไรถึงจะตอบโจทย์นั้น เราแวะมาดูเรื่องประโยชน์ของปลอกหมอนและผ้ารองกันเปื้อนหมอนกันก่อนดีกว่า ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ เลยก็มีอยู่ด้วยกัน 3 อย่าง ได้แก่


1.เพื่อความสวยงาม

ปลอกหมอนในปัจจุบันนั้นมีลวดลายมากมายให้เราเลือกสรร เรียกได้ว่าคุณอยากตกแต่งที่นอนของคุณเป็นแนวไหน ก็มีปลอกหมอนลายนั้นไว้ให้คุณนำมาใช้อย่างแน่นอน และปลอกหมอนสีเรียบ แบบทอลาย หรือปลอกหมอนสีขาวล้วน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คลาสสิค ดูเรียบหรูตลอดกาล


2.เพื่อรักษาความสะอาดของหมอน

ไม่ว่าหมอนของคุณจะทำมาจากวัสดุอะไร แต่ถ้ามันเปื้อนแล้ว ก็ต้องลำบากในการทำความสะอาดกันให้วุ่นเป็นแน่ แต่ถ้าคุณมีปลอกหมอน หรือผ้ารองกันเปื้อนหมอนแล้วล่ะก็ หมอนของคุณก็จะได้รับการปกป้องจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญยังง่ายต่อการทำความสะอาดอีกด้วย


3.เพื่อยืดอายุการใช้งานของหมอน

ฝุ่นและคราบสกปรกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรืออาหารก็อาจทำร้ายหมอนของคุณได้ เพราะฉะนั้นการที่มีปลอกหมอน หรือผ้ารองกันเปื้อนหมอนมาปกป้องหมอนของคุณจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นจะช่วยให้หมอนของคุณมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น

การเลือกปลอกหมอน ควรเน้นเลือกปลอกหมอนจากเนื้อผ้าที่สามารถ ระบายเหงื่อและอากาศได้ดี  เพื่อช่วยให้นอนหลับได้สบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงวัสดุที่มีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายอีกด้วย

และเพื่อให้หมอนของเราไม่สกปรกจากเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ การเลือกใช้ปลอกหมอนกันเปื้อน ช่วยรองด้านใน มีทั้งแบบใยซับชองเหลว หรือจะเป็นแบบกันน้ำ จะช่วยให้หมอนของคุณไม่เป็นคราบจากสิ่งสกปรกที่เป็นของเหลวได้นั่นเอง ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องทำความสะอาดหมอนบ่อย ๆ อีกด้วย

          เมื่อรู้วิธีเลือกปลอกหมอนแล้ว ต่อไปเราก็ขอแนะนำคุณให้รู้จักกับ SP Luxury Trading ซึ่งมีปลอกหมอนให้คุณเลือกได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบมาตรฐาน หรือแบบปีกก็ตาม นอกจากนั้นยังมีบริการตัดปลอกหมอนไซส์พิเศษอีกด้วย ที่สำคัญด้วยนโยบายเน้นคุณภาพของสินค้า ในราคาที่สมเหตุสมผลนั้น ขอให้คุณมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ปลอกหมอนที่ดี มีคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคุณอย่างแน่นอน

เนรมิตห้องนอนเก่า ให้เป็นโรงแรม 5 ดาว ได้ง่ายๆ ด้วย 7 สิ่งนี้ !

เนรมิตห้องนอนเก่า ให้เป็นโรงแรม 5 ดาว ได้ง่ายๆ ด้วย 7 สิ่งนี้ !

เบื่อไหม ที่เปิดประตูห้องนอนเข้าไปก็เจอแต่มุมเดิมๆ รกเหมือนเดิม แถมสีผนังก็หลุดลุ่ยถลอกปอกเปิกไปหมด เจ้าหลอดไฟตัวดีก็กระพริบเอาๆ พร้อมพังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไหนจะเตียงนอน ชุดเครื่องนอน ยันหมอนหนุนที่นุ่มจนเละถึงพื้นนอนละปวดหลังจนสุดจะทน นี่ยังไม่รวมกลิ่นอับที่ต้องทนนอนดมทุกวันอีก สาบานว่านี่ คือ ห้องนอน ที่ใช้นอนเพื่อผ่อนคลาย สบายอารมณ์ ?

ฉะนั้น จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะมาช่วยคุณเนรมิตห้องนอนเก่าให้ใหม่ ให้ปัง เหมือนอยู่ในโรงแรม 5 ดาว ให้เป็นห้องนอนที่คุณไม่อยากออกไปไหนเลย แม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์

7 สิ่งใกล้ตัว ที่จะทำให้ห้องนอนเก่าของคุณ กลายเป็นโรงแรม 5 ดาว

  • โละทิ้งให้หมด อะไรที่รก และไม่ดีต่อใจ

เริ่มต้นเนรมิตห้องนอนเก่า ให้เป็นโรงแรม 5 ดาว ด้วยการทำเลียนแบบหนัง “ฮาวทูทิ้ง” อะไรเสีย อะไรพัง อะไรไม่ดีต่อใจ ทิ้งไปให้หมด ไม่ให้เหลือซาก ไม่ให้เหลือความทรงจำเกี่ยวกับเธอ (อินอะไรอะ ?)

  • เปลี่ยนโทนสีผนังห้องใหม่ ให้มู้ดแอนด์โทนไปในทางเดียวกัน

โรงแรมมักใช้โทนสีผนังห้อง และโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เป็นมู้ดแอนด์โทนเดียวกัน อาทิ ขาว-ฟ้า , ขาว-น้ำตาลอ่อน , ขาว-ครีม หรือ น้ำตาลอ่อน-น้ำตาลเข้ม เป็นต้น

  • อัพเกรดที่นอน เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีในระยะยาว

หากรู้สึกว่าที่นอน นอนแล้วไม่สบายตัว ไม่มีความสุข ตื่นมาปวดหลัง ปวดตัว ไม่สดชื่น เราขอแนะนำว่า คุณควรเปลี่ยนที่นอนใหม่ได้แล้วค่ะ เพราะหากคุณยังฝืนใช้ต่อไป อนาคตหลังของคุณได้แย่ก่อนวัยอันควรแน่ๆ

  • ใช้หมอนขนเป็ด หรือหมอนโรงแรม เพื่อเพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟ

ปัจจุบันหมอนขนเป็ด หรือหมอนโรงแรม เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในครัวเรือน เพราะหมอนขนเป็ด หรือหมอนโรงแรมจะมีสัมผัสที่นุ่มมาก (ก.ไก่ล้านตัว) อันเนื่องมาจากการนำขนหน้าอก ขนท้อง และขนปีกของเป็ดมาใช้ทำหมอนนั่นเอง และเมื่อคุณใช้งานหมอนขนเป็ด หรือหมอนโรงแรมไปเรื่อยๆ มันจะค่อยๆ ยุบหรือสปริงตัวตัวหมอนอย่างช้าๆ ทำให้รองรับสรีระส่วนคอได้เป็นอย่างดี แถมยังยืดหยุ่น และโอบอุ้มส่วนโค้งเว้าได้ดีอีกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะทำให้คุณนอนหลับสบาย ผ่อนคลายความอ่อนล้าได้ตลอดทั้งคืน

  • ปลอกหมอนและชุดเครื่องนอนต้อง “สีขาว” เท่านั้น

หากคุณอยากให้ห้องนอนของคุณถอดแบบโรงแรม 5 ดาวออกมา คุณจะต้องใช้ปลอกหมอนและชุดเครื่องนอนสีขาวสะอาดตาเท่านั้น ย้ำ! สีขาวสะอาดตาเท่านั้น เพราะการใช้สีขาวเป็นการสื่อถึงความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความสบายตา ที่หาไม่ได้จากที่ไหนนอกจากโรงแรม 5 ดาว

  • โคมไฟสีนวลๆ อบอวลด้วยกลิ่นอายโรงแรม 5 ดาว

การเลือกใช้โคมไฟสีนวลตา หรือสีส้ม แทนหลอดไฟสีขาวสว่างจ้า จะช่วยให้ห้องนอนของคุณมีกลิ่นอายความเป็นโรงแรม 5 ดาวมากยิ่งขึ้น ยิ่งบวกกับผ้าม่านสีขาวพลิ้วๆ แล้วด้วยนั้น ยิ่งทำให้ห้องนอนของคุณมีความอบอุ่น โรแมนติก ผ่อนคลายสบายทั้งกายและจิตใจ แถมยังดูหรูหราโอ่อ่าในคราเดียวกันอีกด้วย

  • ตั้งน้ำมันหอมระเหย ให้ห้องนอนเฟรชตลอดเวลา

หมดปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องนอนไปได้เลย หากคุณตั้งน้ำมันหอมระเหยนี้ไว้ในห้องนอนของคุณ ซึ่งข้อดีของเจ้าน้ำมันหอมระเหยนี้ก็มีอยู่มากมายหลายอย่างด้วยกัน อาทิ การเพิ่มความหอม ความเฟรชให้กับห้องนอน อีกทั้ง น้ำมันหอมระเหยบางประเภท เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ ยังช่วยให้คุณผ่อนคลาย หลับสบายตลอดทั้งคืนด้วย

ท้ายนี้ ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เพื่อนๆ นักอ่านทุกคนจะแฮปปี้กับการเนรมิตห้องนอนเก่า ให้เป็นโรงแรม 5 ดาว กันนะคะ

เลือกไส้ผ้านวมและปลอกผ้านวมอย่างไร ให้ตอบโจทย์สำหรับโรงแรมของคุณ

ในธุรกิจโรงแรมนั้น ภาพลักษณ์ของห้องพักอาจส่งผลถึงความนิยมของโรงแรมได้เลยทีเดียว ยิ่งโรงแรมไหนมีห้องพัก และเตียงนอนตกแต่งสวยงามมีเอกลักษณ์แล้ว จะยิ่งทำให้โรงแรมนั้นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากที่จะเข้ามาใช้บริการมากเท่านั้น ฉะนั้นการเลือกปลอกผ้านวม และไส้ผ้านวมให้เหมาะสมกับโรงแรมของคุณได้นั้น จะต้องคำนึงถึง 3 ปัจจัยสำคัญด้วยกัน ได้แก่

1. วัสดุในการผลิต

  • วัสดุของไส้ผ้านวม

ไส้ผ้านวมโพลีเอสเตอร์ ผ้านวมชนิดนี้จะมีความนุ่ม เบา ห่มสบาย เหมาะสำหรับโรงแรมที่มีทุนไม่สูง และห้องพักราคาไม่แพง เพราะสามารถนำไปซักแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ผลิตจากใยโพลีเอสเตอร์ 200 กรัม ต่อตารางเมตร

ไส้ผ้านวมขนห่านเทียม ผลิตจากใยขนห่านเทียม ในสัดส่วน 250 กรัม ต่อตารางเมตร ทำให้มีสัมผัสที่นุ่มมาก ห่มแล้วอุ่น เหมาะสำหรับใช้ในห้องพักโรงแรมราคาสูง ๆ ซึ่งพบได้ทั่วไปในโรงแรมเกรดระดับ 5 – 6 ดาว    

ไส้ผ้านวมขนเป็ดเทียม ผ้านวมชนิดนี้ ส่วนใหญ่ใช้ในห้องพักโรงแรมที่มีแอร์เย็น เพราะเมื่อห่มแล้วจะรู้สึกอุ่น เนื่องจากไส้ผ้านวมชนิดนี้จะมีความหนาเป็นพิเศษ ประมาณ 2.5 – 3 นิ้ว ผลิตจากใยขนเป็ดเทียม 250 กรัม ต่อตารางเมตร

  • วัสดุของปลอกผ้านวม

ปลอกผ้านวม CVC จะผสมระหว่างผ้า Cotton และ Polyester ในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง ทำให้มีคุณสมบัติหนานุ่ม ผ้าไม่หดตัว ทนต่อการซักรีด ระบายอากาศดี และไม่ซับเหงื่อ เหมาะกับการใช้ใส่ปลอกผ้านวมโรงแรมที่มีราคากลาง ๆ เพราะมีราคาไม่แพง จึงได้รับความนิยมค่อนข้างมาก

ปลอกผ้านวม TC เป็นปลอกผ้านวมที่ผสมระหว่าง Cotton และ TC ในสัดส่วน 35:65 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ปลอกผ้านวมชนิดนี้จะไม่มีรอยยับ ไม่ลื่น เหมาะสำหรับใช้ใส่ปลอกผ้านวมโรงแรมที่มีค่าห้องราคาประหยัด

ปลอกผ้านวม Cotton มีราคาสูงกว่าแบบอื่น เนื่องจากใช้วัสดุ Cotton 100 เปอร์เซ็นต์ และปลอกผ้านวมชนิดนี้จะมีสัมผัสที่นุ่ม เบาสบายทุกการสัมผัส ระบายอากาศได้ดีมาก ๆ ข้อเสียคือจะยับง่าย ดังนั้นจึงต้องการการรีดเพื่อความสวยงาม

2. ขนาดของที่นอน

นอกจากขนาดของเตียงนอนจะส่งผลต่อราคาห้องพักแล้ว ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกไส้ผ้านวม และปลอกผ้านวมโรงแรมด้วยเช่นกัน โรงแรมไหนที่จัดเตียงนอนไม่เรียบร้อย จะทำให้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์โรงแรมได้ ฉะนั้นหากอยากให้โรงแรมของคุณมีภาพลักษณ์ที่ดี ก็ควรตกแต่งห้องพักให้สะอาดเรียบร้อย โดยเลือกไซซ์ของปลอกผ้านวมโรงแรมให้เหมาะสมกับขนาดของเตียงนอน ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ซึ่งขนาดปลอกผ้านวม และไส้ผ้านวมส่วนใหญ่ที่คนมักจะซื้อมาใช้กัน จะเริ่มต้นที่ 60×80 นิ้ว จนไปถึง 110×110 นิ้ว ด้วยกัน

3. ลักษณะการจัดเตียงนอน

การเลือกปลอกผ้านวม หรือไส้ผ้านวม ให้เหมาะสมกับห้องพักโรงแรมของคุณนั้น คุณจะต้องคำนึงถึงรูปแบบการจัดเตียงนอนด้วยว่า โรงแรมของคุณมีสไตล์การจัดเตียงแบบไหนว่า มีการสอดผ้านวมใต้เตียงหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น จะต้องใช้ปลอกผ้านวมและไส้ผ้านวมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก แต่ถ้าเพียงจัดผ้านวมแค่คลุมเตียงไว้เท่านั้น ก็สามารถเลือกไซส์ขนาดสำหรับคลุมเลยเตียงได้เลย

ด้วย 3 ปัจจัยหลักเหล่านี้ จะทำให้คุณสามารถเลือกปลอกผ้านวม และไส้ผ้านวมได้อย่างเหมาะสมกับห้องพักโรงแรมของคุณ อย่าลืมกันเสียละว่า ยิ่งห้องพักและเตียงนอนของคุณ ตกแต่งสวยงามมากเท่าไหร่ จะยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากเท่านั้น

ถ้าหากไม่แน่ใจเรื่องไซส์ สามารถติดต่อสอบถามที่ฝ่ายขายของเราได้เลย

ยินดีให้คำแนะนำก่อนและหลังการขาย

มาเลือกดูหมอนแบบต่างๆ เพื่อโรงแรมในฝันของคุณกันเถอะ

หากพูดถึงเหตุผลที่ทำให้การเข้าพักโรงแรม หรือว่ารีสอร์ทประทับใจจนอยากจะกลับไปอีกครั้ง ก็คงจะมีมากมายหลากหลายเหตุผลไปตามแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่ดี มีวิวที่สวยงาม หรืออาหารรสเลิศก็ตาม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะมีอีกเหตุผลหนึ่ง ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการบ่งบอกว่าการไปใช้งานบริการโรงแรม หรือว่ารีสอร์ทนั้นๆ ตอบโจทย์เราหรือไม่ นั่นก็คือ การทำให้เรานอนหลับสบายเต็มอิ่มตลอดคืนนั่นเอง

การนอนหลับ คือการพักผ่อนที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ ลองสังเกตดูก็ได้ว่าตอนที่คุณนอนไม่เต็มอิ่ม กับตอนที่นอนหลับสนิทแล้วตื่นขึ้นมา แบบไหนทำให้ร่างกายของคุณสดชื่นและพร้อมในการเนินชีวิตในแต่ละวันมากกว่ากัน และสำหรับโรงแรมแล้ว การที่สามารถมอบประสบการณ์การนอนหลับที่เต็มอิ่มให้ลูกค้าก็นับเป็นงานสำคัญ ดังนั้นทางโรงแรมเองก็ต้องเตรียมบริการต่างๆ ไว้เพื่อลูกค้า ซึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คงจะเป็นที่นอน ไม่ว่าจะเป็นเตียง ไปจนถึงหมอนที่ทำให้ลูกค้านอนหลับสบายทั้งคืน จนติดใจอยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของหมอนที่ใช้ในโรงแรมกัน ว่าหมอนโรงแรมนั้น หลักๆ แล้วมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมีจุดเด่นที่อะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปดูกันเลย

1.หมอนใยสังเคราะห์ เป็นหมอนที่พบเห็นบ่อยที่สุด ส่วนมากมักใช้ในโรงแรมทั่วไป เพราะมีราคาไม่แพง แต่ทนทาน การดูแลรักษาก็ง่าย เหมาะกับธุรกิจที่มีห้องพักหลายห้องที่ต้องการประหยัดต้นทุนและได้หมอนโรงแรมที่มีคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล จุดเด่นของหมอนประเภทนี้ก็คือสามารถระบายอากาศ และคืนตัวได้ดี ไม่เสียทรง รองรับการกระจายน้ำหนักได้ดี

2.หมอนใยบอล เป็นหมอนที่ใช้ใยสังเคราะห์เกรดพรีเมี่ยมที่อยู่ในรูปแบบเม็ดกลมทรงบอลเป็นไส้หมอนเพิ่มพื้นที่ระบายอากาศซึ่งจะช่วยทำให้หมอนโรงแรมใยบอลมีคุณภาพดี กระจายน้ำหนักและรองรับสรีระได้ดีกว่าหมอนใยสังเคราะห์ทั่วไป แม้อาจจะไม่นุ่มเท่ากับบรรดาหมอนขนเป็ด แต่ก็ยังให้ความรู้สึกที่สบายเช่นกัน เวลาใช้งานนานๆ ก็ไม่ลีบหรือว่าเสียทรงง่าย

3.หมอนขนเป็ด เป็นหมอนโรงแรมที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ อาจจะไม่เหมาะกับลูกค้าที่แพ้กลิ่นขนเป็ด หรือแพ้ขนสัตว์ หมอนไส้ขนเป็ดจะมอบความรู้สึกนุ่ม สบาย และหรูหรา จุดเด่นของหมอนโรงแรมขนเป็ดแท้ก็คือ ความนุ่มฟู แน่นได้รูปทรง หมอนขนเป็ดแท้ยังมีคุณสมบัติยืดหยุ่น ที่จะค่อยๆยุบตัวลงอย่างช้าๆ เพื่อรองรับสรีระชองผู้นอนอย่างเหมาะสม ช่วยให้หลับสบาย ไม่ก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยคอเวลานอน มักใช้กันในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่ต้องการมอบสัมผัสแห่งการนอนที่เต็มอิ่ม เหนือระดับให้กับลูกค้า

4.หมอนขนเป็ดเทียม เป็นหมอนโรงแรมที่มีจุดเด่นที่ความนุ่มสบายเทียบเท่ากับหมอนขนเป็ดแท้ แต่ไม่มีกลิ่นของขนเป็ดมากวนใจ ตัวหมอนมีความยืดหยุ่น เด้งสปริงคืนตัวได้สูง ช่วยทำให้หลับสบายมากยิ่งขึ้น และข้อดีอีกอย่างของหมอนขนเป็ดเทียมก็คือ สามารถนำไปซักทำความสะอาดได้ง่าย เพราะเส้นใยจะไม่จับตัวเป็นก้อน แห้งง่ายจึงไม่อับชื้น หมอนขนเป็ดเทียมมีราคาที่สูง จึงมักใช้กันในโรงแรมหรูระดับ 4-5 ดาว เป็นหมอนโรงแรมหรูที่แม้ว่าราคาจะสูงสักหน่อย แต่ก็คุ้มค่าต่อการลงทุน เพราะมีทั้งความทนทาน และยังทำความสะอาดได้ง่าย สามารถใช้งานได้ยาวนานอีกด้วย

เมื่อรู้แล้วว่าหมอนโรงแรมแบบใด เหมาะกับการใช้งานประเภทไหนแล้ว ก็อยากจะขอแนะนำ SP Luxury Trading ที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้หมอนที่ดี มีคุณภาพ ด้วยนโยบายเน้นคุณภาพของสินค้า ในราคาที่สมเหตุสมผล    

ผ้าปูเตียงสำหรับธุรกิจโรงแรม การเลือกเนื้อผ้าก็สำคัญ

            ในการทำธุรกิจโรงแรมนั้น ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องคำนึงถึงและเอาใจใส่ ซึ่ง หนึ่งในเรื่องที่ต้องโฟกัสเลยก็คือเรื่องของ “ผ้าปูโรงแรม” เพราะวัตถุประสงค์หลักของโรงแรมก็คือการเปิดห้องเพื่อรองรับแขกที่จะเข้ามานอนพักผ่อน เตียงนอนจึงต้องมีความพร้อมและสามารถอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้อย่างถึงที่สุด ทำให้การเลือกผ้าปูเตียงกลายมาเป็นหัวข้อสำคัญในวันนี้ เนื่องจากว่ามีเนื้อผ้ามากมายหลายชนิด ที่สามารถนำมาทำเป็นผ้าปูโรงแรมได้ และแต่ละชนิดนั้นก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของธุรกิจต้องการแบบไหน แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการทำธุรกิจด้านการโรงแรม ก็อาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าเนื้อผ้าแต่ละแบบเป็นอย่างไร แตกต่างกันแค่ไหน ดังนั้น บทความในวันนี้จึงจะรวบรวมเอาข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อผ้าเด่นๆ ที่นิยมนำมาทำเป็นผ้าปูโรงแรมมานำเสนอให้ได้ศึกษากัน

ผ้าปูเตียงสำหรับธุรกิจโรงแรม การเลือกเนื้อผ้าก็สำคัญ!

            สำหรับเนื้อผ้าที่นิยมนำมาทำผ้าปูโรงแรมนั้น ก็มีอยู่ด้วยกันหลักๆ 3 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ผ้า CVC ผ้า TC ผ้า Cotton ซึ่งผ้าแต่ละแบบก็มีข้อเหมือนและแตกต่างกันดังต่อไปนี้

  1. ผ้า CVC

ผ้าชนิดนี้ เกิดจากการผสมกันระหว่างคอตตอน 50%  และ โพลีเอสเตอร์ 50% ทำให้ผ้าชนิดนี้มีความหนานุ่ม มีความทนทานต่อการซักรีด ระบายอากาศได้ดี ไม่ดูดซับเหงื่อ ไม่มีปัญหาเรื่องการหดตัว เมื่อใช้เป็นผ้าปูโรงแรมจะทำให้สามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างรู้สึกสบายเหมาะสำหรับห้องพักที่ราคากลางๆ ไม่ต่ำเกินไปและไม่สูงเกินไป ธรรมชาติของผ้า คือ ไม่ยับมาก ไม่ต้องรีดเยอะ หากสะบัด แล้วตากตึงๆ ก็แทบจะไม่ต้องรีดเลยค่ะ มีความนุ่มกว่าผ้า TC  แถมยังมีราคาที่ไม่ต่างกันกับผ้า TC มากนัก ทำให้เป็นทิ่นิยมมากกว่า

  • ผ้า TC สี

ผ้า TC สี  เป็นผ้าผสมระหว่าง Cotton 35% และ Polyester 65%  ธรรมชาติของผ้า  คือ ไม่ลื่นแต่ก็ไม่ยับ

ไม่ต้องรีด และตัวผ้ามีราคาถูก เหมาะสำหรับห้องพักรายวัน รายชั่วโมง หรือห้องพักราคาไม่เกิน 500 บาท และ เหมาะสำหรับโรงแรม  รีสอร์ท ตามต่างจังหวัดที่นิยมผ้าสี หรือ  ที่มีปัญหาเรื่องน้ำประปาเหลือง หรือ ใช้ผ้าสีขาวไม่ได้

นอกจากนี้ยังสีไม่ตก และไม่ยับง่ายอีกด้วย เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นผ้าปูโรงแรมในห้องพักประเภทห้องรายวัน รายชั่วโมง  หรือสำหรับห้องที่มีการเข้าใช้งานบ่อยๆ

  • ผ้า Cotton

ผ้าคอตตอนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผ้าฝ้ายธรรมชาติ 100% ทำให้ราคาของผ้าชนิดนี้มีราคาสูงกว่าผ้าชนิดอื่น แต่ก็แลกมากับความนุ่ม เบาสบายทุกสัมผัส ระบายอากาศและเหงื่อได้ดี ทำให้ห้องพักที่มีราคาสูงนิยมใช้ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าปูโรงแรม แต่ผ้าชนิดนี้ก็มีข้อเสียตรงที่สามารถยับได้ง่าย ต้องรีดสถานเดียว จึงต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษในแง่ของการซักรีด

และนี่ก็เป็นเนื้อผ้าหลักๆ ทั้งหมด 3 ชนิด ที่นิยมนำมาผลิตเป็นผ้าปูโรงแรมให้เจ้าของธุรกิจได้จัดซื้อจัดหากัน แต่นอกเหนือจากการเลือกเนื้อผ้าแล้ว การเลือกจำนวนเส้นใยที่ใช้ถักทอผ้าแต่ละชนิดก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะยิ่งมีเส้นใยมากเท่าไร ผ้าที่ได้ก็ยิ่งนุ่มลื่น ยิ่งมีราคาสูงมากเท่านั้น อย่างเช่นผ้า Cotton100% ก็จะมีจำนวนเส้นใยกำกับเอาไว้เช่นเดียวกัน เช่น Cotton 220T, Cotton 230T , Cotton  300T และ Cotton 500T  เป็นต้น ดังนั้นนอกจากจะพิจารณาเรื่องเนื้อผ้าแล้ว จะต้องไม่ลืมเรื่องจำนวนเส้นด้ายด้วย

หมอนขนห่านแท้เทียม แตกต่างอย่างไร

            เมื่อเราพูดถึงการนอนที่ใครๆ ก็ชื่นชอบแล้วล่ะก็ คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะว่าหากจะทำให้การนอนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเลือกใช้ “หมอน” นั้น ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการนอนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว! เพราะว่าหมอนเป็นสิ่งที่เราใช้เพื่อนอนหนุน ซึ่งแต่ละคนก็ชื่นชอบหมอนกันคนละแบบ ทำให้ทุกๆ คนมักจะมีหมอนใบโปรดเป็นของตัวเอง ที่ใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนหรือกี่ปีก็ตามก็ไม่ยอมเปลี่ยนหมอนกันเสียที..

            อย่างไรก็ตาม การใช้หมอนเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานานเกินไป อาจส่งผลให้การนอนไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากหมอนก็มีอายุขัยของมัน รวมถึงมันอาจกลายเป็นแหล่งที่รวบรวมเชื้อโรคมหาศาลเอาไว้ ถ้าหากไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร บางคนจึงมีทางเลือกในการเสริมสร้างคุณภาพการนอน ด้วยการซื้อหมอนใหม่มาแทนที่หมอนใบเดิมนั่นเอง ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าหมอนนั้นมีหลายประเภทเอามากๆ แต่ก็มีหมอนอยู่ประเภทนึงที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งก็คือ “หมอนขนห่าน” นั่นเอง เนื่องจากขนห่านนั้นมีสัมผัสที่นุ่มสบาย ชวนให้คนที่นอนหนุนหมอนขนห่านเกิดความเคลิบเคลิ้มได้ง่าย ซึ่งหมอนขนห่านนั้นมีทั้งแบบหมอนขนห่านแท้และหมอนขนห่านเทียม และทั้งสองชนิดก็มีข้อเปรียบเทียบที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

หมอนขนห่านทั้งแบบแท้และเทียม กับข้อแตกต่างที่คุณควรรู้เอาไว้!

            ด้วยข้อเปรียบเทียบในหัวข้อต่อไปนี้ จะช่วยทำให้คุณได้เข้าใจเกี่ยวกับหมอนขนห่านในแบบต่างๆ มากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

  • ด้านราคา

แน่นอนว่าราคาของหมอนขนห่านจริงย่อมมีราคาที่สูงกว่าหมอนขนห่านเทียม เนื่องด้วยกระบวนการผลิตที่ใช้ทุนสูง โดยเริ่มตั้งแต่การนำห่านมาเลี้ยง ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าที่ห่านจะโตพอที่จะมีลักษณะขนที่เหมาะสมในการนำมาทำหมอน

  • ด้านสัมผัส

แม้จะเป็นหมอนขนห่านเทียมก็ตาม แต่ว่าไส้ด้านในที่เป็นขนห่านเทียมนั้นถูกผลิตขึ้นจากเส้นใยไมโครเจล ซึ่งถือเป็นนาโนเทคโนโลยีแบบหนึ่ง ทำให้ไส้ขนห่านเทียมด้านในมีสัมผัสที่ฟูนุ่มและเรียบเนียนประดุจใยไหม ให้ความรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย จนแทบจะไม่แตกต่างจากการใช้ขนห่านจริงเลยก็ว่าได้

  • ด้านกลิ่น

สำหรับคนที่มีประสาทสัมผัสด้านกลิ่นที่ไว หมอนขนห่านจริงอาจไม่เหมาะกับคุณ เพราะว่าหมอนขนห่านจริงจะมีกลิ่นเฉพาะตัว ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่แพ้เพราะจะทำให้รู้สึกเหม็นได้ แม้ว่าจะให้สัมผัสที่นุ่มสบายเพียงใด แต่ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวนั้นอาจทำให้คุณรู้สึกนอนไม่หลับแทน หมอนขนห่านเทียมจึงกลายมาเป็นทางเลือกสำหรับคนที่แพ้กลิ่นขนห่าน

  • ด้านการแพ้

นอกเหนือจากเรื่องกลิ่นที่ชวนแพ้แล้ว ขนห่านจริงยังอาจไปกระตุ้นอาการแพ้ขนสัตว์ในบางคนได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นขนห่านจริง จึงไม่แปลกที่อาจจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ดังนั้นสำหรับผู้ที่รู้ตัวว่าตัวเองอาจมีอาการไวต่อการกระตุ้นของขนสัตว์ การเลือกใช้หมอนขนห่านเทียมจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณ

และนี่ก็เป็นข้อเปรียบเทียบต่างๆ ระหว่างหมอนขนห่านแท้และหมอนขนห่านเทียม ที่เราหวังว่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้กับคุณๆ ทั้งหลายที่อาจจะกำลังมองหาหมอนขนห่านมาเป็นของตัวเองอยู่ อย่าลืมว่าคุณควรเลือกประเภทของหมอนขนห่านที่เหมาะกับคุณที่สุด ไม่ว่าจะในด้านใดๆ ก็ตามที

Scroll to Top